ฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” ฟอกเงิน เว็บพนันฯ ยึดทรัพย์กว่า 50 ล้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” อินฟลูเอนเซอร์สายรถแข่งชื่อดัง พร้อมพวกรวม 6 คน ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง ในข้อหา “สมคบกันฟอกเงินฯ” หลังตํารวจนําหมายจับ 6 หมาย เข้าตรวจค้นพร้อมกัน 3 จุด สามารถจับกุมเอ็มพร้อมคนใกล้รวม 6 คน ก่อนคุมตัวมาสอบสวน โดยระหว่างที่ตำรวจคุมตัวนายเอ็มขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา สื่อมวลชนพยายามสอบถามนายเอ็ม ว่า ถูกตำรวจกลั่นแกล้งหรือไม่ เพราะที่ผ่านมานายเอ็มยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์มาตลอด แต่นายเอ็มปิดปากเงียบไม่ตอบคําถามใดๆของสื่อมวลชนโดยมีสีหน้าเรียบเฉย
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า จากจุดเริ่มต้นคดีคลิปทำร้ายร่างกาย “แบงค์ เลสเตอร์” ได้มีการขยายผลเรื่อยมาจนไปถึงตัว “เอ็ม เอกชาติ” และพบว่านายเอ็มมีพฤติการณ์แปะลิงก์เว็บพนัน เมื่อตรวจสอบลึกลงไปพบว่านายเอ็มมีความเกี่ยวพันกับจำเลยคดีฟอกเงินเว็บพนันเครือข่าย “อั้ม ภูมิพัฒน์” และ “แยม ธมลพรรณ์” อดีตนักแสดงสาว มาก่อน เคยถูก ปปง. ดำเนินคดีเรื่องการฟอกเงิน และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงินที่ตำรวจไซเบอร์สืบสวนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นคดีของ “กอล์ฟ เอสคาร์” และ “เจนวิทย์”
เบื้องต้นตํารวจได้เข้าจับกุมนายเอ็มพร้อมบุคคลใกล้ชิดรวม 6 คน และตรวจยึดทรัพย์สินกว่า 120 รายการ อาทิ รถยนต์หรู , รถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง , กระเป๋าแบรนด์เนม , เงินสดเกือบ 1.5 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆรวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ทั้งนี้อยู่ระหว่างสืบทรัพย์เพิ่มเนื่องจากยังมีทรัพย์สินประเภทบ้านและรถที่ไม่ปรากฏทางทะเบียน
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยืนยันว่านายเอ็ม เป็นผู้รับผลประโยชน์จากเว็บพนัน และเป็นขบวนการฟอกเงิน มีเส้นทางการเงินจากเว็บพนันโอนผ่านบัญชีม้าหลายบัญชี ก่อนจะโอนเข้ามายังบัญชีธนาคารของคนรับใช้นายเอ็มมากกว่า 30 ล้านบาท ทั้งที่ปกติแล้วคนรับใช้จะได้เงินเดือน เดือนละ 15,000 บาทเท่านั้น
จากการสอบสวนนายเอ็มยังคงให้การภาคเสธ ยอมรับเพียงว่า ทรัพย์สินที่ถูกยึดเป็นของตนเอง แต่ไม่สามารถชี้แจงที่มาทรัพย์สินได้ และปฏิเสธข้อกล่าวหา ปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews