SMS ดินไหว “ผู้นำ” ในวิกฤติ “อิ๊งค์” Vs “ชัชชาติ”

 

 

 

แม้จะผ่านมา2วันแล้ว แต่โมงยามนี้คนไทยยังอยู่ในอาการ “แพนิค”กับสถานการณ์“แผ่นดินไหว” ที่มีศูนย์กลางเกิดขึ้นในเมียนมาขนาด8.2 ที่ถือว่ารุนแรงในรอบกว่าร้อยปี

 

 

 

 

และเป็นครั้งแรกที่ส่งผลกระทบถึงไทยทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดภาคเหนือที่รุนแรง เช่นเดียวกับเมืองหลวง กรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ทำให้ตึกสตง.30 ชั้น ย่านจตุจักรที่กำลังก่อสร้าง ถล่มลงมามีผู้เสียชีวิตและติดอยู่ภายในนับร้อยจนถึงเวลานี้ก็ยังมีการค้นหาผู้ติดภายในและผู้เสียชีวิต
ในขณะที่ความรุนแรงของดินไหว ยังกระทบกับชีวิต “คนกรุงเทพ”ที่ทะยอยกลับเข้าไปดูความเสียหาย หลังจากวันเกิดเหตุต้องทิ้งทุกอย่างวิ่งหนีตายลงมา ท่ามกลางความโกลาหลแบบ “จับต้นชนปลายไม่ถูก”ว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตต่อหลังรอดลงมาได้ต้องลงมาเคว้งอยู่กลางถนนกันอยู่หลายชั่วโมง

 

โดยตลอดทั้งวันดินไหวที่ประชาชนกำลังเจอวิกฤติตรงหน้า หลายองค์กรทั้งภาครัฐเอกชนและสื่อพยายามติดต่อสอบถามหน่วยงานที่มีหน้าที่ด้านภัยพิบัติแผ่นดินไหวทั้งอุตฯ ปภ. ศูนย์ภัยพิบัติ ในทุกช่องทาง เพื่อทราบข้อมูลสถานการณ์ข้างหน้าว่าจะต้องรับมือยังไง ตรงที่อพยพลงมาปลอดภัยหรือยัง รวมถึงการจะเกิดอาฟเตอร์ช็อคตามมาเมื่อไหร่ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ด้วยสัญญานการสื่อสารที่ขัดข้องทั้งระบบการโทรและอินเตอร์เน็ตในช่วงเวลาวิกฤติ และแม้จะผ่านไปหลายชั่วโมงก็ยังไม่มีใครได้รับ SMS แจ้งจากหน่วยงานใด แม้จะมีภาพการสั่งการของ “นายกอิ๊งค์”ที่ไปประชุมอยู่ที่จ.ภูเก็ตให้ส่งSMSแจ้งข้อมูลต่อประชาชนตั้งแต่บ่ายสอง ทำให้เรื่อง SMS แจ้งประชาชนเป็นประเด็นที่รัฐบาลถูกวิจารณ์หนัก

 

จนในการประชุม ติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาแผ่นดินไหว(บก.ปภ.ช.)เมื่อวาน(29มี.ค.) “นายกอิ๊งค์”ต้องเสียงแข็ง จี้ถามเรื่องSMSกับ ปภ.,อุตุ,และ กสทช. ท่ามกลางนักข่าว ว่า จะมีวิธีใดแจ้งเตือนได้ทันที ยอมรับอยู่ภูเก็ตตกใจ เพราะไม่เคยเจอ ทำตัวไม่ถูกเหมือนประชาชน โดยหลังการแจงของปภ.,กสทช.”นายกฯอิ๊งค์”สรุปว่า ปัญหามาจาก การส่ง SMS ล่าช้าและไม่ทั่วถึง นี่คือปัญหาข้อแรกที่ต้องแก้ไข ตนทราบดีว่า Cell broadcast เรายังใช้งานไม่ได้ ตนเองก็ผิดเองที่ไม่ได้ระบุว่า ต้องส่งอะไรบ้าง เพราะตอนนั้นคิดว่าทุกฝ่ายต้องร่วมกันที่จะบอกรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และต้องตอบคำถามเรื่องนี้ เพราะตนต้องตอบคำถามประชาชน ตนสั่งการไปตั้งแต่ 14:00 น. ว่าให้ SMS เตือนทุกอย่างแต่ระบบไม่ออก

 

จึงไม่ทราบว่า ต้องดูตรงไหนเพิ่มเติมอีก เมื่อมีการสั่งการจากทั้งมหาดไทย ทั้งนายกฯ แล้วมันต้องไปส่วนไหนอีกถึงจะได้เร็วขึ้น ตอนนี้สิ่งที่ปรับปรุงได้คือ SMS เมื่อCell broadcast มาก็คงจะเป็นคำตอบได้แต่แผ่นดินไหวตัวเองก็ไม่ทราบว่าต้องทำตัวอย่างไรก็ค่อนข้างที่จะเหมือนประชาชนคนไทยทุกคนที่เราไม่ได้อยู่ในประเทศที่มีแผ่นดินไหวเป็นประจำ เรื่องนี้คงต้องให้ความรู้เพิ่มเติม ก่อนฝากกระทรวงคมนาคมจัดเตรียมระบบ SMS สำหรับแจ้งเตือนประชาชนทันที และแนะนำเส้นทาง หากเกิดอุบัติเหตุหรือการจราจรเป็นอัมพาตในกรณีอื่นๆ เพราะครั้งหน้าไม่ควรจะเป็นแบบนี้

 

เรียกว่าภาพใหญ่สถานการณ์ดินไหววันที่2 ถูกมองจาก “นายกอิ๊งค์”คือการไปแก้เรื่องSMSเตือน และการให้ข้อมูลประชาชน เป็นหลัก ในขณะที่หลายฝ่ายมองว่าสถานการณ์ขณะนี้ต้องคู่ขนานไปทั้ง “การสื่อสาร” ทำความเข้าใจ กับ ประชาชน ในทุกช่องทางไม่แค่SMS และ การแก้ปัญหา”หน้างาน” กับการ “ช่วยชีวิต”คนงานใต้ซากตึกถล่ม รวมไปถึงการสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนคนไทย และชาวต่างประเทศ จากปัญหาข้อมูลมากมายทุกทิศทาง
ที่ถูกส่งออกมาจนสถานการณ์กรุงเทพฯดูน่ากลัวจากข่าวต่างประเทศ

 

ที่สถานการณ์นี้ หลายคนเริ่มหันมามองบาบาท ภาวะ“ผู้นำในภาวะวิกฤติ”ของ “ชัชชาติ”ผู้ว่า กทม. ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุจนถึงเมื่อวานและวันนี้ ว่า มีการจัดลำดับความสำคัญการจัดการที่รอบด้านรัดกุม แม้จะเป็นการ “ประสาน”ความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆ โดยมองการจัดการของ “ชัชชาติ” ซึ่งแสดงให้ประชาชน “อุ่นใจ”จากความรู้ ความเข้าใจวิกฤติ ที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเป็น “วิศวกร”อยู่แล้ว ทั้งการให้ความรู้ฉากทัศน์ที่จะเกิดขึ้น และการจัดการสถานการณ์อย่างเป็นขั้นตอน
รวมถึงการใช้เครื่องมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแอพพิเคชั่น fondue เข้ามาจัดกาปัญหา ทำให้มี visibility รู้จำนวนเคส รู้สถานที่ รู้ลำดับความสำคัญ จัดการได้อย่างเป็นระบบ

 

ในขณะที่ “รัฐบาล”ส่วนกลางที่ “นายกฯ”และ “มท.1”นั่งหัวโต๊ะ ของศูนย์บริหารสถานการณ์ยังถกกันอยู่ว่าจะเอาผิดใครเรื่องSMS ดินไหว จนยังไม่เห็นแอ๊คชั่นของ ศูนย์อำนวยการฉุกเฉินรวมศูนย์อำนาจและคุมการสื่อสารให้คนไม่ตื่นตระหนก ในขณะที่“ชัชชาติ”ตั้งศูนย์อำนวยการฉุกเฉินภายใน 30 นาทีแถมมีสื่อของตัวเอง (Facebook Live) แบบไม่ต้องรอรัฐบาลสั่งรวมการเฉพาะกิจทำให้มีการมองถึง “ภาวะผู้นำ” ในภาวะวิกฤต ที่ ประชาชน ต้องการ

 

โดยเฉพาะ”ผู้นำ”ที่ออกมาแสดงตนว่ามั่นใจและรู้ถึงปัญหา และกำลังแก้อย่างไร ปัญหาใหญ่หรือเล็กขนาดไหน แค่นี้ก็อุ่นใจ ยิ่งชาวบ้านเห็นผู้คนองค์กรทั้งในและต่างประเทศเข้ามาร่วมช่วยในทุกมิติกับ “ชัชชาติ”ผ่าน Live สด เช่นระดม “วิศวะอาสา”นับร้อยมาช่วยวิ่งตรวจโครงสร้างอาคารทั่วกรุงเทพให้ ไม่นับรวมการจัดการเรื่องการช่วยคนจากซากตึก และการจัดการที่อพยพชาวคอนโด จนผู้คนเริ่มนึกถึง ภาพ “ผู้ว่าหมูป่า”ช่วย13เด็กทีมหมูป่าถ้ำหลวงเชียงราย และบางคนอยากเชียร์ให้รัฐบาล “นายกอิ๊งค์”ตั้งให้ “ชัชชาติ” เป็นcommanderหรือเป็นผู้บัญชาการ สถานการณ์ดินไหวครั้งนี้ แบบ“โมเดลผู้ว่าหมูป่า” ที่เคยปฏิบัติการถ้ำหลวงจนฝรั่งเอาไปทำเป็นภาพยนตร์ต่างประเทศ

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews