Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

วิกฤตเศรษฐกิจไทยกู้ได้ด้วยวัคซีน

ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมีผลพวงมาจากวิกฤตของโควิด-19 ปัญหาหลายส่วนกำลังค่อยๆได้รับการแก้ไข แต่กุญแจสำคัญ ที่จะทำให้การแก้ไขประสบความสำเร็จ คือการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนจนเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศ การนำเข้าวัคซีนให้เพียงพอ และกระจายวัคซีนให้ถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็วตามแผนที่กำหนดจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถของรัฐบาล ท่ามกลางกระแสโซเชียลในการเลื่อนฉีดวัคซีนเข็มที่2ของหลายหน่วยงาน กำลังบั่นทอนความเชื่อมั่นและอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของประเทศ ต้นเดือนมิถุนายนนี้คงมีลุ้นกันอีกรอบ หากวัคซีนลอตใหญ่ที่รัฐบาลประกาศไว้ไม่มาถึงประเทศไทย

แต่กว่าจะถึงเวลานั้น การกระจายวัคซีนที่มีอยู่กับกลุ่มคนที่ถือว่ามีความจำเป็น และมีความเสี่ยงสูง อย่างภาคธุรกิจร้านอาหาร เวลานี้สามารถเดินหน้านับ 1 ได้แล้ว ผู้ประกอบการร้านอาหารมีคิวเข้ารับวัคซีนกับทางกรุงเทพฯ ทำให้เกิดความมั่นใจได้ ทั้งคนขายและลูกค้า โดยนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ทางสมาคมภัตตาคารไทย ได้ทยอยนำพนักงานลูกจ้างของร้านอาหารต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯทยอยเข้ารับวัคซีนโควิด-19 แล้ว ที่จุดกระจายวัคซีนมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งหอการค้าไทยได้จัดทำระบบและเปิดเป็นจุดบริการของหอการค้าไทยร่วมกับกรุงเทพฯ บริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนนอกโรงพยาบาล โดยสมาชิกของสมาคมจะทยอยเข้ารับวัคซีนวันละ 200 คน ซึ่งจะต้องแจ้งชื่อลงทะเบียนผ่านมายังสมาคมก่อน

โดยการทยอยเข้ารับวัคซีนของผู้ประกอบการร้านอาหารนั้นส่วนหนึ่งทำให้มีความมั่นใจในการเปิดกิจการมากขึ้นเพราะลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อได้ เพราะเวลานี้ทางผู้ประกอบการบางรายยังคงมีความไม่มั่นใจ จึงยังไม่ได้เปิดให้บริการตามปกติ แต่ในอนาคตเชื่อว่าเมื่อมีการฉีดวัคซีนได้ในระดับที่เกิดภูมิคุ้มกันหมู่แล้วเศรษฐกิจของประเทศจะพลิกกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยธุรกิจร้านอาหารจะสามารถกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง จากนิสัยของคนไทยที่ชอบการสังสรรค์และทำกิจกรรมนอกบ้าน

แต่ทุกอย่างวัคซีนคือเงื่อนไข นายสุพันธุ์ มงคลสุธีร์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บอกว่า ขณะนี้ภาคเอกชนมีความกังวลใจเกี่ยวกับมาตรการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาล ที่ขณะนี้เริ่มมองเห็นการขาดแคลนในระยะสั้น หลังจากประชาชนมีความต้องการมากขึ้น และอาจจะกระทบต่อการฉีดวัคซีนในเดือนมิถุนายนนี้ ที่รัฐบาลตั้งเป้าฉีดให้ได้เฉลี่ยเดือนละ 10 ล้านโดส การเร่งบริหารจัดการ ไม่ให้กระทบกับแผนการจัดหาวัคซีนในภาพรวมที่รัฐบาลวางเป้าหมายไว้ เพื่อฉีดให้ประชาชนในประเทศรวม 150 ล้านโดสจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากไม่มีวิธีจัดการที่ดีจะส่งผลกระทบในหลายภาคส่วน

โดยภาคเอกชนมองเห็นว่า วัคซีนทางเลือกอาจเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่รัฐบาลจะต้องพิจารณาอย่างเร่งด่วน องค์การเภสัชกรรม ควรอนุมัติให้บริษัทเอกชนและโรงพยาบาลเอกชน ที่ยื่นขอนำเข้าวัคซีนทางเลือกให้สามารถนำเข้าได้เร็วขึ้น เพื่อครอบคลุมไวรัสครบทุกสายพันธุ์และแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทันเวลา

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube