Home
|
ข่าว

“วัคซีนการเมือง”วัดใจ”ลุงตู่”

“วัคซีนการเมือง”วัดใจ”ลุงตู่”

@ในจังหวะที่”โควิด”ยังทำยอดพุ่งเจ็บตายท่ามกลางความสับสนในการสื่อสารระหว่างฟังก์ชันอำนาจที่”รวมศูนย์”ไปที่”นายกฯลุงตู่”ที่กุมสภาพ 31 พ.ร.บ.ที่แม้บางครั้งจะดู”กระชับเร็ว”ตัดขั้นตอนการตัดสินใจ แต่หลายครั้งก็มี”ข้ออ่อน”กลายเป็น”ความผิดพลาด”ให้ต้องเปลี่ยนนโยบายกันแบบรายชั่วโมงทั้งระหว่าง”ลุงตู่”กับ”หมอหนู”และกับ”ผู้ว่าฯอัศวิน”ที่เพิ่งเกิดปัญหา ล่าสุดปมการถูกศบค.เบรคการปลดล็อก 5 กิจการเมื่อวาน(1มิ.ย.) ขณะอีกด้านก็มีปัญหาลักษณะคล้ายกันกรณี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บรรดา อบจ.หลายๆจังหวัด จะเอาตามแบบ”โมเดล”ของ”บิ๊กแจ๊ส”นายกฯอบจ.ปทุมธานี ที่ดีลกับ”โรงพยาบาลราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์”จอง”วัคซีนทางเลือกชิโนฟาร์ม”มาฉีดให้ประชาชนเพราะเห็นว่าที่ได้จัดสรรจากรัฐบาลมายังไม่พอและไม่ทันต่อสถานการณ์ระบาด

@แต่ก็ถูกบิ๊กในรัฐบาลตั้งแต่”บิ๊กป๊อก”, “อ.วิษณุ”หรือแม้แต่”ลุงตู่”เบรคแกมขู่ระวังโดน สตง. ตรวจสอบการใช้เงินผิดประเภท ให้รอฟัง ศบค.เพราะต้องรอเคลียร์คำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินที่เคยระบุว่าทำไม่ได้ ที่ถูกมองว่า “ศูนย์อำนาจ”ยังไม่ยอมกระจายอำนาจการกระจายวัคซีน แม้จะมี”วัคซีนทางเลือก”มาแล้วโดยอ้างเหตุผลกลัววุ่นวาย”เหลื่อมล้ำ”ในจังหวะที่ต้องยอมรับว่าทั้งการ”จัดหา”และ”จัดสรรวัคซีน”ของรัฐบาลที่ผ่านมายังไม่ทันต่อสถานการณ์ แถมมีข้อครหา ฝ่ายการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาล มีการขอ”โควตา”กระจายลงพื้นที่ฐานเสียงตัวเองหรือไม่ กระทั่งลามมาสู่การตั้ง”ข้อสังเกต”การจัดสรร”วัคซีนแอสตราเซเนกา”ในลอตที่เคยให้ข่าวว่าจะมา 1.7 ล้านโดส ก่อนช่วงปลายเดือนพ.ค.

@ในขณะที่”นายกฯลุงตู่”แม้จะตบอกผางๆ ประกาศทำเพื่อประชาชน ยืนยันวันที่ 7มิ.ย.คิ๊กออฟ”ฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ”ต้องมี”วัคซีนแอสตราฯ”มาฉีดให้ประชาชน แต่ดูทรงแล้วก็ใช่ว่าจะฟันธงว่าจะเป็น”วัคซีนแอสตราฯ”ทั้งหมดที่จะมีฉีดปูพรมให้ได้วันละ8แสนโดสอย่างที่คุย เพราะแม้จะมีกำหนดจะส่งมอบรัฐบาลไทย 6 ล้านโดส แต่ก็ใช้คำว่า”ภายในเดือน มิ.ย.”และเดือน ละ 10 ล้านโดสถัดไป ที่ก็สอดรับกับ”ข้อมูล”จาก”ชมรมแพทย์ชนบท”

@โดย”น.พ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ”ที่ออกมาบอกวันก่อน(31พ.ค.)  ว่า “…วัคซีน (Astra) lot แรกในเดือนมิถุนายนนี้ จะสามารถส่งมอบลอตแรกได้ที่ 1.8 ล้านโดส จากความต้องการใช้แอสตร้า 5 ล้านโดส โจทย์ที่สำคัญคือ วัคซีนจำนวนนี้ ควรจัดสรรไปฉีดให้ใคร แล้ววัคซีนที่ขาดไปจะทำอย่างไร ซึ่ง วันที่ 7 มิ.ย.รัฐบาลก็ต้องมีวัคซีนแอสตร้ามาฉีดให้กับคนไทย นี่คือความอยู่รอดครั้งสำคัญของรัฐบาล ทำให้ แผนสอง จึงเกิดขึ้น ซึ่ง วัคซีนแอสตร้าจากเกาหลี คือ คำตอบสุดท้าย โดยมี”ข่าววงใน”ว่า มีการสั่ง”แอสตราฯ”มาจากเกาหลี 5 แสนโดส เพื่อมาแก้ขัดให้ทัน 7 มิ.ย. และสั่ง “ซิโนแวค”มาอีกมากกว่า 3 ล้านโดส สำหรับใช้แทน “วัคซีนแอสตราฯ”ที่ขาดหายไป ทำให้คนที่ลงทะเบียนไว้ส่วนหนึ่งจะได้รับการเชิญชวนให้ฉีด”ซิโนแวค”แทน”

@ทั้งที่ มีข่าวว่า มีคนพยายามเสนอ”ลุงตู่”ใน ศบค.ให้ใช้”แอสตราฯ”เป็นตัวสกัดสถานการณ์ระบาด เพราะ สร้างภูมิได้เร็วถึง80%  โดยควรนำมา”จัดหนัก”อย่างน้อย1ล้านโดส ฉีด ให้ กรุงเทพฯปริมณฑลที่กำลังระบาดหนักและยังเล็ดลอดกระจายไปต่างจังหวัดช่วงนี้ และเห็นว่า รัฐบาลควรเอาการเมืองออกจากวัคซีน หยุดให้ สส.มาขอวัคซีน ลงจังหวัดเพื่อหวังคะแนนเพื่อการเลือกตั้งที่ใกล้จะถึง เพราะเดือน มิ.ย.คือเดือนที่ ชี้อนาคต หากควบคุมการระบาดไม่อยู่ กรุงเทพอาจต้อง “ล็อกดาวน์” การระบาดอาจลามไปทั่วประเทศ เช่นเดียวกับมาเลเซีย เพราะกระสุนมีจำกัด ต้องนำมาหยุดระบาดโควิดให้ตรงจุด…

@ขณะเดียวกัน จากข้อมูลของ “นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์(31พ.ค.)ที่ว่า ได้รับตัวอย่างวัคซีนของแอสตร้าเซนเนกา เพิ่มเติม 5 ลอตการผลิต และผลการตรวจออกมาผ่านมาตรฐานทุกตัวอย่าง ซึ่งเมื่อรวมกับก่อนหน้านี้ 9 ลอตก่อนหน้านี้ จะมีวัคซีนแอสตร้าเซนเนกาที่ผลิตในประเทศไทยที่ผ่านมาตรฐานรวม 14 ลอต ซึ่งประมาณว่า 1 ลอตการผลิต จะได้ราว 1-2 ล้านโดส และรุ่นถัดๆไปอาจจะได้ 2.5-3 ล้านโดส เท่ากับว่า ตอนนี้มีวัคซีนแอสตราฯ ถึง 28 ล้านโดส หรือก็น่าจะมากกว่า 20 ล้านโดส จากที่ประเทศไทย สั่งซื้อ ครั้งแรก 26 ล้านโดส และสั่งเพิ่ม 35 ล้านโดส รวมเป็น 61 ล้านโดส

@เท่ากับว่า ที่เหลือ ต้องขึ้นอยู่กับ “ลุงตู่” จะไปพูดยังไง กับ บริษัทแอสตราประเทศไทย ให้รักษาสัญญาธุรกิจ รีบส่งมอบวัคซีนลอตแรก ที่ผลิตในไทยโดยสยามไบโอไซเอนซ์ซึ่งผ่านการตรวจสอบแล้วดังว่า ให้กับรัฐบาล เพื่อกระจายฉีดให้ทันวันที่ 7 มิ.ย.โดยไม่ส่งออกให้ประเทศอื่น อย่างที่วันก่อน”หมอหนู”แพลมว่า ต้องขอร้องให้อย่าเพิ่งส่งออกไปขายที่อื่น

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube