วัคซีนค็อกเทลVs 3พันชีวิต
วัคซีนค็อกเทลVs 3พันชีวิต
ยังคงอยู่ในโหมด”สงครามโควิด”ที่ไม่มีคนไทยหน้าไหนในยุค ”รัฐบาลนายกฯลุงตู่” พ.ศ.นี้ จะไม่รู้สึกหดหู่เศร้าใจและรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยต่อตัวเองครอบครัวคนที่รัก กับ “ความจริงตรงหน้า” สถานการณ์วิกฤต จากสภาพปัญหากลไกรัฐกับความพร่องขาด ที่ส่งผลต่อ “ระบบสาธารณสุข” ที่กำลังแลกมาซึ่ง สภาพความเดือดร้อนทุกข์ทนสาหัสของผู้คน กับการบุกทะลวงของ”โควิดพันธุ์ดุ เดลตา” ทั้งมิติอันตรายต่อชีวิตชนิดตายเจ็บรายวัน และมิติอันตรายต่อปากท้องเศรษฐกิจ กันทุกหย่อมหญ้า ไม่ว่ายากดีมีจนเฒ่าชะแร แก่ชราหนุ่มสาวคนทำงาน ยันทารกที่เพิ่งเกิดหรือไม่มีโอกาสเกิดเพราะโควิด ไม่ว่าจะเป็นคนไทยคนต่างด้าว โดยเฉพาะ ยอดวันนี้(15ก.ค.)ที่มียอด ผู้เสียชีวิตสะสมทะลุ 3 พัน ที่ 3,032ศพแล้ว หลังพบมีผู้เสียชีวิตเพิ่มถึง 98 ราย ติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 9,186 ราย
เป็น “ความจริงตรงหน้า” ที่ หลายคนไม่ว่าจะแวดวงหมอ หรือ แต่ละฟังก์ชันในสังคม พยายามหาเหตุผลของ “คำตอบ” ใน “คำถาม” ที่ว่า “เรามาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร” แม้ว่าจะมีกระบวนการสังเคราะห์ผ่าน “ภาพจริงเสียงจริง” ที่เกิดขึ้นจาก “ประชาชน” โดยตรงผ่านสื่อโซเชียลที่เขามีอยู่ในมือกับสถานการณ์ที่หนักขึ้นเรื่อยๆ นับแต่ การระบาดของ “โควิดเวฟ4” ว่าปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งมาจากต้นทาง “การบริหารจัดการ” ทั้งในมิติ ”การรักษา” และ ”การป้องกัน” ที่ในหลาย “ข้อต่อ” ความผิดพลาดหลายครั้งถูกตั้งข้อสงสัย แต่ไร้คำตอบชัดเจน จนนำมาสู่ “ปัญหาปลายน้ำ” ที่ “ฝ่ายปฏิบัติ” อย่าง “หมอหน้างาน” ทั้งการกระจายฉีดวัคซีน มาจนถึงปัญหาการรักษาที่เกิดปัญหา “รอเตียงตาย” จน “หมอชนบท” ทนไม่ได้ต้องระดมกองทัพหมอต่างจังหวัดเข้ามาช่วย ที่ปัญหาล้วนติดอยู่ที่ “คอขวด” ระเบียบกฎบัตรกฎหมาย ที่ต้องรอการสั่งการจากเซ็นเตอร์ ศบค. “ซิงเกิลคอมมานด์”
ที่การบริหารจัดการแบบนี้ ได้ผลกับ โควิดภาค1 แต่ใช้ไม่ได้กับ “โควิดเดลตา” ภาค 4 ที่เร็วเก่งกว่าหลายเท่าตัว ดังการทวีคูณของตัวเลขตายเจ็บ 15 วัน ที่ผ่านมา ที่แม้จะออกมาตรการ “ล็อกดาวน์” 14 วัน ตั้งแต่แต่ 12 ก.ค. ก็ไม่ทำให้ ”เดลตา” สะดุ้งสะเทือนอะไร จน “คณะกรรมการควบคุมโรคระบาด” ที่ “หมอหนู” ต้องออก 4 มาตรการออกมา แบบที่หันมาที่ความสำคัญของการฉีด “วัคซีนโควิด” ที่มีคุณภาพในการป้องกันความรุนแรงได้ ทั้งยอม “บูตส์เตอร์เข็ม3” ให้ ”บุคลากรทางการแพทย์” และเร่งฉีดกลุ่มเสี่ยงคนแก่และกลุ่ม 7 โรค ให้ได้ 1 ล้านใน 2 วีค รวมไปถึงเรื่อง “วัคซีนค็อกเทล” ซิโนแวค+แอสตราเซเนกา ที่เหล่าบรรดา “หมอหน้างาน” บอกว่าเป็นการแก้ปัญหา “วัคซีนล้นสต๊อก” และ ”วัคซีนไม่มาตามนัด”
ที่อย่าลืมว่า วัคซีนSV เพิ่งถูกสั่งเพิ่มอีก 10 ล้านโดส รวมของเดิมก็ 20 ล้านโดส และยอมรับกันว่าใช้ไม่ได้กับ “โควิดเดลตา” ที่ต้องใช้อย่างน้อยก็ วัคซีน AstraZeneca หรือ ซิโนฟาร์ม เป็นเข็ม 1 และค่อยตามด้วย “วัคซีนเวอร์ชันใหม่” เป็นเข็ม 2 หรือ 3 ที่ประเด็น “วัคซีนไขว้” ยังมีความลังเลจาก”นายกฯลุงตู่” จากเสียงเตือนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เพราะยังไม่มีหลักฐานข้อมูลผลกระทบด้านสุขภาพ ขณะที่ กลุ่มคนที่ฉีด SVครบ 2 เข็ม ก็ถามเซ็งแซ่ว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิต จะต้องไปหาจอง “วัคซีนทางเลือก” เพื่อไป “บูตส์ภูมิ” เองเหมือน “หมอหน้างาน” หรือไม่
ไม่เท่านั้น “วัคซีนค็อกเทล” ที่ผสมระหว่าง SVกับAZ ยังมีอีกปัญหาคือ “วัคซีนไม่มาตามนัด” ซ่อนอยู่ เช่นเมื่อดู “ไส้ใน” ยอดฉีดสะสมวันนี้ 13.2 ล้านคน เป็น AZ สองเข็ม 73,491 คน และ AZ หนึ่งเข็ม 5.68 ล้านคน คนที่ฉีด AZ หนึ่งเข็มทุกคนน่าจะเริ่มฉีดในวัน “เริ่มปูพรม” 7 มิ.ย. ซึ่งถ้านับไป 12 สัปดาห์ คิวฉีดเข็มสองก็คือ วันที่ 30 ส.ค.แปลว่า เดือน ก.ย. ทั้งเดือน ต้องมี Az ให้คนที่ฉีดเข็มแรกไปแล้ว หมายความว่า ถ้าเอา AZ มาฉีดเป็นเข็มแรกทั้งเดือน ก.ย. อาจต้องมีวัคซีน AZ ทั้งหมดคูณ2 ประมาณ10กว่าล้านโดส ที่ดูทรงแล้วยากเพราะตอนนี้ AZ ส่งให้ไทยได้แค่เดือนละ 5 ล้านโดส ทำให้เห็นภาพการ “แก้ปัญหาเฉพาะหน้า” กัน วัคซีน AZ ที่จะส่งมาเดือนนี้และเดือนหน้า (ก.ค. + ส.ค.) ให้ครบ สำหรับคนที่ฉีด AZ เข็มแรกไปแล้ว โดยให้คนที่มาฉีดเข็มแรกในช่วงนี้ หรือช่วงหลังจากนี้ด้วย ถ้าเห็นว่า AZ ยังมาไม่พอ ฉีดแต่ Sv ภายใต้สูตร Sv + AZ ที่ สธ. ประกาศ ที่ทำให้หลายฝ่ายมองแบบงงๆว่า ทำไมเราไปทำ “ข้อตกลง” ที่เสียเปรียบ แบบไม่เผื่อ ไม่คิดถึงการบริหารจัดการความเสี่ยง หรือการกระจายความเสี่ยงใดๆไว้เลยแบบนี้ ได้อย่างไร
ที่ทั้งหมดทั้งมวล มี “สัญญาณ” มาแล้วว่า “ผลลัพธ์ปลายทาง” จะน่าห่วง แบบที่ไม่เป็นไปตามที่ “หมอหนู”แถลงกับคณะกรรมการควบคุมโรคฯเรื่อง “วัคซีนค็อกเทล” ดังการออกมายอมรับล่าสุดผ่าน “หมอตี๋” สาธิต ปิตุเดชะ รมช.สธ.ว่าซุปเปอร์ดีลวัคซีน AZ จะไม่สามารถส่งมอบได้ 61 ล้านโดส ตามที่สัญญาไว้ก่อนหน้านี้อย่างที่รัฐบาลเคยวางแผนไว้ว่าจะส่งภายในปีนี้ คือ เดือนมิ.ย. 6 ล้าน ก.ค.-พ.ย.ส่งเดือนละ 10 ล้าน ธ.ค. 5 ล้านโดส โดยจะขอปรับเลื่อนออกไปเป็นถึงเดือนพฤษภาคม 2565
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news