โควิดจะดีขึ้น-วัคซีนไขว้
โควิดจะดีขึ้น-วัคซีนไขว้
จับ ”สัญญาณ” ทั้งที่ถูกส่งผ่าน”นายกฯลุงตู่”ซึ่งออกจากถ้ำ WHF เริ่มพาบรรดารัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน้างาน ตามโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อวาน(19ส.ค.)ที่ส่งซิกว่าอาจมีการ ”คลายล็อก” ปลายเดือนส.ค.โดยกำลังพิจารณาว่าหลัง 31 ส.ค. จะอย่างไรเพราะให้ความสำคัญกับผลกระทบเศรษฐกิจด้วย รวมถึงวันนี้(20ส.ค.) ทั้งที่ ศบค.แถลงในท่วงทำนองจะบอกกรายๆว่าจากนี้ ตัวเลข โควิด จะทรงตัว และลดลง โดยเฉพาะของ กทม.การติดเชื้อจะไม่มากไปกว่านี้ ที่ก็สอดรับกับ ตัวเลขที่ออกมาวันนี้ แม้จะนับว่าถึงล้านรายเป็นวันแรกนับแต่มีโควิดแต่ก็ถือว่ามีการติดเชื้อต่ำกว่า 2 หมื่นเป็นวันแรกเช่นกัน ที่ยอด 19,851 สะสม 1,009,710 เสียชีวิต 240 ที่การออกมาส่งสัญญานนี้เหมือน ว่า ภาคเอกชน การลงทุน ดูจะตอบรับ ผ่านตัวเลขกระเตื้องในตลาดอยู่บ้าง วัคซีนไขว้
กระนั้น ก็ยังมีหลายฝ่ายกังวลไม่น้อย กับ การวางแผนการบริหารจัดการสถานการณ์ถัดไปจากนี้ โดยเฉพาะ หากดูที่ ”ไส้ใน” ก็ยังพบว่า ยังมีปัญหาความไม่พร้อมของเวชภัณฑ์ที่ใช้ในกระบวนการ ตั้งแต่ 1.การป้องกัน โดยการฉีดวัคซีน ที่ยังคงมีปัญหาการส่งมากระท่อนกระแท่นของ ”วัคซีนหลัก” แอสตราเซเนกา จนนำมาซึ่งข้อเสนอ “ปลดล็อก” ในการให้นำเข้า “วัคซีนทางเลือก” NrnA แบบ “ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์” ที่ วันก่อน “ธรรมศาสตร์” ออกมาเคลื่อนไหวจะนำเข้าเอง ที่วันก่อนมีข่าว “นายกฯ” ถาม ”หมอหนู” ว่าจะเป็นไปเป้าการฉีดที่ตั้งไว้เดิมหรือไม่ คือต้อง ครบ 70% ของประชากร” (100 ล้านโดส) ภายในสิ้นปี 2564
2.การตรวจ ในการตรวจเชิงรุกด้วยการให้มีประชาชนตรวจเองผ่านชุดตรวจATK ที่ยังอยู่ในกระบวนการซื้อ 8 ล้านชุด และ 3.การรักษา ที่ยังพบคอขวดในกระบวนการของ “โฮมไอซูเรชั่น” ในประเด็นการจ่ายยาฟาวิฯ ที่ไม่ทันการเพราะ ระบบและของไม่พอที่กำลังอยู่ในกระบวนการจัดซื้อ
ที่อย่าลืมว่าทั้ง 3 กระบวนการป้องกัน-ตรวจ-รักษาและเยียวยาจาก “ศึกโควิด” ที่เริ่มไหลรวมจากประเด็น ”ความล้มเหลว” ในการบริหารจัดการในภาพรวม แบบที่ฝ่ายค้านเตรียมซักฟอกนายกฯลุงตู่ มาสู่ประเด็น การทุจริตคอร์รัปชันนั้น ถือเป็นเรื่องที่ ”นายกฯลุงตู่” ระวังตัวไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นกรณีการกระตุกเตือนฝ่ายที่เกี่ยวข้องวันก่อนผ่านบันทึกสั่งการนายกฯ ที่เหมือนจะ สั่งเบรก เรื่องการจัดซื้อชุดตรวจATK ที่ไม่ได้รับการรับรองจากWHO แต่ปรากฏว่า บริษัทเอกชนที่ชนะประมูล ออกมาสวนทันควัน โดยทำจดหมายเปิดผนึกชี้แจงนายกฯเมื่อวาน(19ส.ค.) ยืนยันเงื่อนไขประมูลไม่ได้กำหนดต้อง “WHO รับรอง” หลังจากที่ก่อนหน้านี้องค์การเภสัชก็ยืนยันการประมูลจัดซื้อชุดตรวจเอทีเค ผ่านการตรวจสอบตามเงื่อนไขเรียบร้อย
ที่ไม่แปลกว่า ประเด็น “วัคซีน” “สูตรไขว้” SV2เข็ม+Az1เข็มจะกลับมาสู่ “หน้าปัด” จะถูก จับตา ระแวงไปถึง “ปัญหา”และ “ครหา” ที่ “วัคซีนAz” มาแบบเอาแน่นอนไม่ได้ ทำให้ ต้องยืนยันสั่งSv เข้ามาเพิ่ม 12 ล้านโดส ทั้งที่มีผลวิจัยชัดถึง “เลเวลวัคซีน” ที่จะรับมือ “สายพันธุ์เดลตา” ได้ต้องเป็นชนิด mRNA ขึ้นไป แบบ แอสตราเซเนกา ยัน ไฟเซอร์ โมเดอร์น่า ที่ยังไม่นับรวม เสียงเตือนถึง “ระเบิดเวลา” จาก “คุณหมอโอภาส” รพ.จุฬา ที่ว่า เวลาดูวัคซีนว่าฉีดได้พอหรือยังให้ดูที่จำนวนคนที่ได้เข็มสอง อย่าเพิ่งดีใจกับเข็มแรกว่าฉีดไปได้มาก การตามเก็บเข็มที่สองในผู้สูงอายุกับคนที่มีโรคประจำตัวที่อยู่ในบ้านที่ไม่สามารถออกไปฉีดนอกบ้านไม่ได้สำคัญที่สุด ในที่ที่มีการระบาดสูง เช่น กทม. ต้องเน้นจำนวนครอบคลุมเข็มที่สอง และ อีกกลุ่มที่น่าจะมีปัญหาแบบระเบิดเวลาในอีกไม่นาน คือกลุ่มคนที่ได้ sinovac ไปสองเข็มไประยะหนึ่ง ตอนนี้ภูมิเริ่มตก จะติดเชื้อและนอนโรงพยาบาลเนื่องจากมีปอดอักเสบ กลุ่มนี้ก็น่าจะเป็นกลุ่มที่รีบได้เข็มที่สาม จะเป็น Astra หรือ Pfizer ก็ได้
ที่เมื่อไปดูไส้ในตัวเลขคนที่ฉีดครบ 2 เข็มประเทศไทยจากข้อมูลของ “อ.ศฤณี” ชี้เป้าว่า วันนี้ถ้าดูตัวเลขคนที่ฉีดครบสองเข็ม ราว 5.5 ล้านคน เป็น SV + SV มากถึง 3.45 ล้านคน หรือ 62.7% ของคนที่ฉีดครบสองเข็มทั้งหมด หรือถ้าจะคิดเป็นสัดส่วนต่อประชากร แปลว่า ในบรรดาคนไทยที่ฉีดครบสองเข็ม 7.6% เป็น Sinovac สองเข็ม ที่หมอบอกว่าภูมิตกแล้ว ราว 4.8% และมีคนฉีดครบสองเข็มที่ไม่ใช่ SV แค่ 2 ล้านคน หรือ 2.8% ของประชากรทั้งประเทศแค่นั้นเอง ซึ่ง มองว่า ประเด็น “SV + SV ภูมิตก” เป็นอีกเหตุผลที่รัฐบาลยิ่งต้องเร่งทำตามข้อเรียกร้อง “นำ mRNA เข้ามาใช้เป็นวัคซีนหลัก” ให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะควรมองไปถึงปีหน้าด้วย ไม่ใช่มัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการอ้างความชอบธรรมมาทำสูตรไขว้ SV + AZ
ทั้งหมดทั้งมวลต้องติดตามว่าอาการส่งซิก ว่าจะผ่อนคลาย โดยจะมี ตัวเลขการลดลงการติดเชื้อเป็น เหตุผล จากนี้ ของ “นายกลุงตู่” ในจังหวะที่ถูก “ทัวร์ลง” จะเป็นไปอย่างที่คาดหรือไม่ กับสถานการณ์ “หน้างานจริง” ที่เพิ่งเห็นได้ 2 วัน จากนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news