ช่วงปลายเทอมของรัฐบาล ที่นำโดยพรรคพลังประชารัฐ ยังคงหนีไม่พ้นปัญหาเดิมๆ “สนิมเกิดจากเนื้อใน” ที่มาสั่นคลอนเสถียรภาพของเรือแป๊ะ
แม้ในช่วง 3 ปีแรกจะฝ่าคลื่นลมมาได้ แต่ก็ทุลักทุเล เสียขุนพลไปไม่น้อย และที่สำคัญก๊วนของ “ธรรมนัส” ก็ถูกขับออกไป ด้วยข้อหากระด้างกระเดื่องร่วม 20 เสียง ทำให้ความเข้มแข็งลดลงไม่น้อย โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ฝ่ายค้านจ้องจับผิดเตรียมยื่นซักฟอกอีกครั้งทิ้งทวนเมื่อเปิดสมัยประชุม
อีกทั้งพลังประชารัฐยังมาพบเกลือเป็นหนอน “พิเชษฐ สถิรชวาล” แฉสัญญาท่อส่งน้ำอีอีซีที่”สันติ พร้อมพัฒน์” เลขาพรรค ในฐานะ รมช.คลัง เป็นผู้ดูแล จนทำให้ร้อนฉ่าทั้งรัฐบาล และพรรค จนฝ่ายกฏหมายต้องเรียกชี้แจง หลังจากนี้ “พิเชษฐ” ก็อาจซ้ำรอย “ธรรมนัส”ต้องเก็บของออกจากพรรคไป หลังยุบพรรคตัวเองมาร่วมสังกัดได้ไม่นาน แต่ครั้งนี้รัฐบาลก็อาจสูญเสียจำนวนเสียงในสภาจากพรรคเล็กเป็นของแถมด้วย เพราะ”พิเชษฐ”
ยังมีอีกฐานะคือหัวหน้ากลุ่ม 16 จึงนับได้ว่า “พิเชษฐ” คือระเบิดเวลาดีๆ ที่จะพังรัฐบาล และพลังประชารัฐนั่นเอง ดังนั้น รัฐบาล และพลังประชารัฐ อาจได้ไม่คุ้มเสีย หากจะเล่นงาน”พิเชษฐ”แบบเดียวกับ”ธรรมนัส” เพราะสภากำลังจะเปิด จำเป็นต้องใช้เสียงสนับสนุน พรบ.งบประมาณ และรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ฝ่ายค้าน กำลังขู่รายวัน
“พิเชษฐ” ในวัย 79 ปี เป็นชาวเพชรบุรี มีดีกรีไม่ธรรมดา จบการศึกษา ปริญญาตรี แคลิฟอร์เนีย คอลเลจ ออฟ คอมเมอร์ซ สหรัฐอเมริกา,ปริญญาโทบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยปาล์มบีช ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เช่นกัน ทำงานในภาครัฐดำรงตำแหน่ง ผอ.ขสมก.ผลงานเด่น นำคอมพิวเตอร์มาใช้ใน ขสมก.และเปลี่ยนรถเมล์จากสีฟ้าเป็นสีแดงทั้งหมด ก่อนลาออกอำลาชีวิตราชการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในปี 2538 ส่วนเส้นทางการเมือง ปี 2539ได้เป็น ส.ส.สมัยแรก ในสีเสื้อพรรคความหวังใหม่ ที่จังหวัดบ้านเกิด ต่อมาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ และได้ตำแหน่ง รมช.อุตสาหกรรม ในรัฐบาล “ทักษิณ ชินวัตร”เมื่อยุบพรรคความหวังใหม่ รวมกับ ไทยรักไทย “พิเชษฐ์”
ก็ได้นั่ง รมช.คมนาคม และถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นตำแหน่ง ในปี 2546 เนื่องจากจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี หลังพ้นช่วงเว้นวรรค ก็มาตั้งพรรคสันติภาพไทย กระทั่งพรรคพลังประชนถูกยุบพรรค พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย “พิเชษฐ”ติดสอยห้อยตามมาด้วย และได้รับแต่งตั้งเป็น ประธานโซนอันดามัน ต่อมาในปี พ.ศ. 2554
เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย กระทั่งหลัง คสช.ยึดอำนาจปี 2557 “พิเชษฐ์” ก็ตั้งพรรค พรรคประชาธรรมไทย และได้เป็น ส.ส.ปัดเศษในการเลือกตั้งปี 2562 ก่อนยุบพรรคตัวเอง ไปสังกัดพลังประชารัฐ ใน 2 ปีถัดมา และตั้งกลุ่ม 16 มาเคลื่อนไหวการเมืองอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง “พิเชษฐ”ประกาศชัดเจน หากถูกพลังประชารัฐ ขับพ้นพรรค จากการแฉข้อมูลท่อส่งน้ำอีอีซี ครั้งนี้ จะไปสังกัดพรรคเสรีรวมไทยต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
