@จังหวะเข้าโค้งสุดท้ายเลือกตั้งผู้ว่ากทม.และนายกฯเมืองพัทยาก่อนถึงวันหย่อนบัตร วันอาทิตย์22พ.ค.นอกจากการจับตาเหลี่ยมคูการเมืองสนามเล็ก ว่าจะซ้ำรอยกับอดีต ที่มีการงัดวิชาเทพวิชามาร มาเป็นตัวพลิกเกมให้คนที่นำในโพลสำรวจแพ้ช่วงไม่กี่วันก่อนหย่อนบัตร แบบที่ “พงศพัฒน์”โดนหรือไม่
อย่างที่เริ่มเห็นแนววาทกรรม “ไม่เลือกเราเขามาแน่”และการปลุกกระแสโจมตี “ตัวเต็ง”ในทุกโพลสำรวจหลายครั้ง อย่าง “ชัชชาติ”ที่กำลังกลายเป็น “ตำบลกระสุนตก”ถูกขุดอดีตทั้งปมปัญหาโครงการใหญ่ๆที่ทำสมัยเป็น รมช.คมนาคม
ใน “รัฐบาลยิ่งลักษณ์”และ มีการขุดภาพและการโพสต์ชื่นชม“ยิ่งลักษณ์”ที่เป็นนายกฯของ”ชัชชาติ”ในช่วงนั้น ที่ล้อไปกับการโจมตีการเป็น “ผู้สมัครผู้ว่ากทม.”ที่ไม่อิสระจริงก่อนหน้า
@ยิ่งมาผนวกกับภาพคู่ขนาน กับ เวทีดีเบตผู้ว่ากทม. ที่บังเอิญว่า “ผู้สมัครผู้ว่ากทม.” ทั้ง2ขั้ว รัฐบาล ฝ่ายค้าน รวมถึงเคยเป็น “ตัวละคร”ที่มีบทบาทบนท้องถนนชุมนุมไล่รัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ กับ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)
และ กปปส. ทำให้มีการนำเนื้อหาทั้งเรื่องการรัฐประหาร การชุมนุมการเมือง มาถามถึงจุดยืน“ว่าที่ผู้ว่ากทม.” ในจังหวะบังเอิญเช่นกัน ว่าวันที่ 22พ.ค.ตรงกับวันครบ8ปีที่ “คณะ คสช.”นำโดย “3ป.” “ป้อม-ป๊อก-ประยุทธ์”ทำการล้มโต๊ะเจรจา “ยึดอำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์”เมื่อปี2557
ที่ยิ่งทำให้ประเด็น อดีตความขัดแย้งแยกขั้วแบ่งฝ่ายถูกนำมาบิ๊วอารมณ์ไปพร้อมกับกระแสเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ที่ส่วนหนึ่งส่งผลกระทบต่อ”ชัชชาติ”ที่แม้จะนำทุกโพลแต่ย่อมได้รับผลกระทบจากกระแสนี้ส่วนหนึ่ง
@ไม่แต่เท่านั้นถัดจากวันที่ 22พ.ค.เปิดทำการมาวันที่ 23พ.ค.ถือเป็นการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญวันแรก ที่จะเริ่มปรากฏท่าทีทิศทางการเมืองจากผลการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ในขณะที่ก็มี “กับระเบิดการเมือง”สำหรับรัฐบาล โดยเฉพาะ “นายกฯลุงตู่”
ที่จะสำแดงถึงปัญหา “เสถียรภาพของรัฐบาล”อีก2-3ลูกรออยู่ ตั้งแต่ การพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณ66และ ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่นับรวม การตีความ การดำรงตำแหน่ง2สมัย8ปีของ “นายกฯลุงตู่”
@เรียกว่าตั้งแต่วันที่22พ.ค.ไปการเมืองภาพใหญ่ถูกจับตาไปถึงโอกาสที่จะเกิด “แรงกระเพื่อม”ไปสู่ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อย่างที่ “นักการเมืองจมูกไว”ลงพื้นที่หาเสียงตุนแต้มตั้งแต่หลายเดือนก่อนมาแล้ว
รวมถึงใน “2ป.”ทั้ง “บิ๊กตู่”และ”บิ๊กป้อม”ที่ใช้ทุกจังหวะทุกโหมดทำคะแนน ไม่นับรวมการแตกตัวตั้งพรรคใหม่ของหลายพรรคที่มาแนว “ทางเลือกใหม่”ไม่ขัดแย้งใครมุ่งแก้วิกฤติประเทศ
แบบ “พรรคไทยสร้างไทย”ของ “คุณหญิงสุดารัตน์”และแบบ “พรรคสร้างอนาคตไทย”ของ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์”และศิษย์“2กุมาร” “อุตตม-สนธิรัตน์”
@ที่น่าสนใจและถูกจับตาจากหลายฝ่าย คือการเปิดตัวของ “สมคิด”ที่ถูกศิษย์ชูเป็น “แคนดิเดตนายกฯ”ที่จ.สุราษฎร์ที่มีการโชว์ วิชชั่นระยะใกล้ และระยะไกล ทางแก้วิกฤติเศรษฐกิจและสารพัดวิกฤติในภาวะสงครามยูเครนที่กระทบไทย
เป็นครั้งแรกในรอบ2ปี หลังจาก “มูฟออน”จาก “รัฐบาลนายกฯลุงตู่” ที่มีการฉายภาพเชื่อมโยงเป็นจริงเป็นจังทุกมิติเศรษฐกิจการเมืองความขัดแย้งทางสังคมและบทบาทบนเวทีอาเซียนของไทย แบบที่ดูทรงแล้วเป็นเนื้อเป็นหนังเป็นรูปธรรม
และดูจะเป็นความหวังให้กับทุกฝ่าย ได้มากกว่ารัฐบาลปัจจุบันของ”นายกฯลุงตู่” ที่ถูกมองว่ากำลังอยู่ใน “ช่วงขาลง” โดยเฉพาะการเสนอแนวทาง “การเมืองทางสายกลาง”ที่มาจาก
“หมอประเวศ”ให้ทุกฝ่ายละเลิกความขัดแย้งขั้วข้างการเมืองที่เคยมีบาดแผลจากอดีตหันมาช่วยแก้วิกฤติของประเทศ ที่ยังเผชิญทั้ง โควิด-เศรษฐกิจ-สงครามยูเครน ที่แนว “สายกลาง”นี้ถูกมองกำลังเป็น “เทรนด์”ทั้งการเมืองสนามเล็ก กับศึกเลือกตั้งผู้ว่ากทม.และ สนามใหญ่ กับ ศึกเลือกตั้งใหญ่ หลังจากนี้.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews