นายพงศกร จันทร์แก้ว หรือ อดีตพระกาโตะ ได้เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบหรือ ปปป. พร้อมทนายความและผู้เป็นพ่อ หลังได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดียักยอกทรัพย์ กรณีเบิกถอนเงินวัดเพ็ญญาติ ไปมากกว่า 600,000 บาท
พนักงานสอบสวนเริ่มกระบวนการสอบปากคำในช่วงบ่าย โดยประเด็นการสอบสวน คือ สอบถามข้อมูลการเยิกถอนเงินวัดเพ็ญญาติไปจนถึงการใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งในเบื้องต้นนายพงศกรระบุว่า ตามระเบียบการเบิกถอนเงินของวัด ให้อำนาจพระสงฆ์ 3 รูป ลงลายมือเบิกถอนเงินของวัดได้ ซึ่งในการทำธุรกรรมแต่ละครั้งกำหนดไว้ว่า จะต้องมีพระสงฆ์ 2 ใน 3 รูป ลงลายมือชื่อรับทราบยินยอมในการเบิกถอนทุกครั้ง
ขณะที่ พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รองผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลางเปิดเผยว่าตามข้อกล่าวหาที่เจ้าทุกจ์แจ้งความดำเนินคดีคือ ยักยอกทรัพย์ ซึ่งในการสืบสวนและตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นายพงศกรมีการเบิกถอนเงินของวัดออกไปใช้จ่ายจริง แต่จะเข้าข่ายมีความผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ยังบอกไม่ได้เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน อีกทั้งยังต้องสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งพระสงฆ์และฆราวาส รวมไปถึงรอหลักฐานเอกสารธุรกรรมทางการเงินจากธนาคาร พิจารณาประกอบกันด้วย
ซึ่งต่อมาภายหลังจากให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนนานกว่า 2 ชั่วโมง อดีตพระกาโตะได้เปิดเผยว่า วันนี้ตนเดินทางมาในฐานะผู้ต้องหา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ความผิดยักยอกทรัพย์ โดยยอมรับสารภาพว่ามีการเบิกเงินวัดจริง รวม 2 ครั้ง ครั้งเเรก 5 เเสนบาท ครั้งที่สอง 1 เเสนบาท รวม 6 เเสนบาท โดยมีเจ้าหน้าที่วัดอีก 1 คน ที่เซ็นต์ร่วม
เพื่อนำไปใช้เเก้ปัญหาส่วนตัว ในเรื่องที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อ ซึ่งก็ได้โอนไปยังบัญชีส่วนตัวผู้อื่นทั้งหมด เเต่ไม่มีเจตนายักยอก โดยอ้างว่าเป็นเพียงการยืม อีกทั้ง อดีตพระกาโตะ ยังยอมรับว่ามีการเปิดบัญชีใหม่ เนื่องจากรักษาการเจ้าอาวาส ท่านอยู่ที่วัดบุบผาราม มีความยากลำบากในการเบิกจ่ายเงิน จึงได้ปรึกษากับคณะกรรมการวัด เเล้วเปิดบัญชีใหม่ขึ้นมา โดยมีญาติโยมที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค รวมทั้งการเบิกจ่ายเเต่ละครั้งในรายการอื่น ก็มีหลักฐานที่จะสามารถชี้เเจงต่อพนักงานสอบสวนได้ทุกกรณี จึงปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าไม่ได้ยักยอกทรัพย์
อย่างไรก็ตาม ตนเองขอขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ ส่วนใครที่ไม่เข้าใจตนก็ขอโทษในทุกสิ่งที่ผิดพลาดไป พร้อมฝากถึงพระภิกษุรูปอื่น ๆ ให้ดูตนเป็นกรณีตัวอย่าง อยากให้ช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา พร้อมทั้งขอโทษที่ไม่ได้บอกความจริงในวันที่ยังห่มผ้าเหลืองอยู่ เเต่ในวันนี้ตนเป็นฆารวาส รักษาศีล 5 เท่ากัน จึงขอพูดความจริงทั้งหมดผ่านสื่อมวลชน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews