วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 หนึ่งในวันสำคัญทางการเมืองไทย เพราะเกิดเหตุ รัฐประหารในประเทศไทย นำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหารโค่นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่งมี นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการ นับเป็นรัฐประหารครั้งที่ 13 ในประวัติศาสตร์ไทย ต่อมาวันที่ 21 สิงหาคม 2557 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ทำหน้าที่แทนสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และรัฐสภา มีมติเลือกพลเอก ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
มาถึงเพลานี้ วันเวลาหมุน ครบ 8ปี แห่งการช่วงชิงอำนาจ โดยเหตุการณ์ดังกล่าว มีตัวละครมากมาย แต่ที่โดดเด่นประกอบด้วย 1. พล.อ.ประยุทธ์ ผู้เขียนประวัติศาสตร์บทใหม่ด้วยตนเอง และล่าสุดเขากล่าวในงานเสวนา “ถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” ว่า วัตถุประสงค์ของการเข้ามาในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อดำรงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประเทศ บ้านเมืองสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และทำให้นานาชาติเกิดความเชื่อมั่นประเทศไทย
ตัวละคร ที่ 2 คือ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่แห่งก๊วน 3 ปอ โดย หลังรัฐประหาร 2557 พลเอก ประวิตร มีแหน่งเป็น รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ต่อมาเป็นประธานที่ปรึกษาของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จากนั้น พล.อ.ประวิตร เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ให้เป็นแหล่งพูดคุยเกี่ยวกับการฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาล
ต่อมาพล.อ.ประวิตร ได้เข้ามานั่งในตำแหน่งสำคัญคือ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ควบ รมว.กลาโหม ก่อนที่ต่อมาเหลือแค่ตำแหน่งรองนายกฯอย่างเดียว แต่ไปสวมหัวโขนเพิ่ม เป็นหัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ ที่ให้ลูกน้องใกล้ชิด อย่าง ผู้กองณัฐ ธรรมนัส พรหมเผ่า แตกแบงก์พัน ไปสร้างพรรคเศรษฐกิจไทย เตรียมมาประกบร่างในเลือกตั้งครั้งต่อไป ซึ่งในช่วงปีหลัง มีกระแสปั่น เสี้ยมให้พี่ป้อม น้องตู่แตกคอกัน แต่ยังไม่สำเร็จ
ตัวละครที่ 3 เทพเทือก สุเทพ เทือกสุบรรณ หนึ่งในปฐมเหตุ และหัวเชื้อเพลิงไฟแรงสูงที่ทำให้เกิดรัฐประหาร 2557 เพราะ เทพเทือก ตั้งคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ออกมาประท้วงต่อต้านการเสนอกฎหมายร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งในช่วงนั้นก่อเกิดเป็นกระแสในสังคม มีคนหลากหลายอาชีพ ชนชั้นเข้าร่วมจำนวนมาก
ตัวละครที่ 4 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. ที่จัดชุมนุมคู่ขนานกับม๊อบกปปส. และกลายเป็นข้ออ้างของคณะรัฐประหารที่จำเป็นต้องเข้ามาควบคุมความสงบเรียบร้อย ซึ่งจตุพรเคยเล่าว่า”พล.อ.ประยุทธ์ นัดเจรจา ตนรู้ว่า เพิ่มกำลังมาสมทบอีกถึง 10 เท่า เชื่อว่าจะยึดอำนาจแน่ นายสุเทพ เ ชวนตนไปคุยกับพล.อ .ประยุทธ์ เพื่อขอเวลาเจรจากันต่อ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ นั่งหัวโต๊ะวิจารณ์ กกต.ไม่จัดเลือกตั้ง แล้วบอกรัฐบาลไม่ยอมลาออก จึงประกาศยึดอำนาจทันที ”
ตัวละครที่ 5 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยโพสต์เฟซบุ๊กว่า “เมื่อเวลาผ่านไป คำสัญญา และเหตุผลที่อ้างเพื่อรัฐประหารรัฐบาลดิฉัน จนถึงวันนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะทำได้ แม้จะจัดให้มีการเลือกตั้ง แต่นั่นเป็นการสร้างภาพว่าคืนอำนาจให้กับประชาชน เพราะได้มีการออกแบบรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตนเองได้สืบทอดอำนาจ สุดท้ายนี้ดิฉันจึงขอทวงถามคุณประยุทธ์แทนพี่น้องประชาชนว่า คุณได้ทำตามที่สัญญาว่าจะคืนความสุขให้กับประชาชนแล้วหรือยัง”
ในเนื้อเพลง คืนความสุขให้ประเทศไทย ที่แต่งโดยพล.อ.ประยุทธ์ ที่ถูกกล่าวถึงและตั้งข้อสงสัยมากที่สุดคือ ท่อนที่ว่า ” เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา”…คำถามคือ 8ปี นานพอหรือยัง และแผ่นดินที่งดงามอยู่ในค่ายทหารหรืออยู่ที่ไหน ช่วยบอกประชาชนด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews