@น่าสนใจใน“อารมณ์คู่ขนาน”ในขณะจังหวะ การเมืองกำลังเข้าโหมด ต้องการการปะทะ จากทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายแค้น กับ “ศูนย์อำนาจ3ป.”โดยเฉพาะกับ“นายกฯลุงตู่”ที่ตกเป็นเป้า “ตำบลกระสุนตก”พลันที่มีการเปิดสภาสมัยสามัญที่มีคิวฝ่า3กับระเบิดการเมืองของ “นายกฯลุงตู่”
ตั้งแต่ 1.การพิจารณาผ่านร่างพรบ.งบประมาณ66 ที่จะเริ่มพรุ่งนี้(31พ.ค.)ถึง 1มิ.ย. 2.ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นวันที่ 15มิ.ย.คาดว่าจะมีการบรรจุวาระและเปิดให้ซักฟอกกันราวต้นเดือนก.ค.
และ3.ปมการยื่นตีความคุณสมบัติ “นายกฯลุงตู่”ที่จะครบ2สมัย8ปีในกลางเดือนส.ค.ปีนี้ ที่ยังไม่นับรวมรัฐสภามีคิวพิจารณา กฎหมายเลือกตั้ง2ฉบับ ที่มีข่าวยังมีบางฝ่ายพยายามสกัดแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย ด้วยการพลิกกลับประเด็นหาร100กลับไป500
@โดยในระหว่างการไหลไปสู่โหมดการเมืองอันสุ่มเสี่ยงต่อ “อุบัติเหตุการเมือง” ข้างต้น มีร่องรอยการเชื่อมต่อกับอารมณ์ของผู้คน ที่เคยถูกระบุว่า เป็น “ฝ่ายเรา” และ” ฝ่ายเขา” ในยุทธศาสตร์ “ไม่เลือกเราเขามาแน่” ภาค2 ที่ผลปรากฏคือการ ชนะแบบแลนด์สไลด์
ของ “ชัชชาติ” ว่าที่ผู้ว่ากทม. และ การชนะ ของ สก.เพื่อไทย และ ก้าวไกล ที่ถูกแบ่งกลุ่มหมายเลขว่าเป็น “ฝ่ายเขา” ที่เป็นอารมณ์สับสนผสมระคนระหว่างอาการ “เบื่อลุง” ที่นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์บอกว่าสำแดงผ่านคะแนนคนกรุงเทพ1.3ล้านเช่นเดียวกับที่คนกันเองอย่าง
“หมอวรงค์” บอกว่าเป็นการสั่งสอน “3ป.” จากคนกรุงฯ และอาการ “ขิงชัชชาติ” ที่ภาษาเกรียน แปลความทำนองอารมณ์เสีย เหวี่ยงวีนใส่ อย่างที่มีความพยายาม “เตะตัดขา” ทั้งการถล่มผ่านโซเชียลไม่ยอมรับที่อ้างว่าเป็น “ผู้ว่าอิสระ” ไม่เกี่ยวพรรคเพื่อไทยของคนแดนไกล และทั้งการร้องเอาผิดผ่านองค์กรอิสระอย่างกกต.
@ที่แม้ “ชัชชาติ”จะมาแนว ประคองตัว ขนานคู่ไปกับการโชว์ความขยันลงพื้นที่ไม่หยุดทั้งวันทั้งคืนตั้งแต่วันแรกที่รู้ผลว่าชนะเลือกตั้ง แบบที่ทีมงานสกรีนที่เสื้อคำว่า “ทำงาน ทำงาน ทำงาน”แบบละมุน ไม่ถลำไปกับปมความขัดแย้ง แม้กระทั่งการหลงเข้าไปกลางวง “เด็ก3นิ้ว”
ที่จัดกิจกรรมอยู่ใกล้ๆบ้าน และถูกถามจาก “รุ้ง”แกนนำถึงความเห็นการยกเลิก ม.112 เมื่อวาน(29พ.ค.) ชัชชาติ ก็ตอบได้เป็นที่พอใจกับทั้ง “ฝ่ายเขา”และ”ฝ่ายเรา”ไม่นับรวมกับการ ไม่เอ๊ะอ๊ะ กับที่มีแฟนคลับทักว่าทำอย่างนี้เป็นนายกฯดีกว่า
ถึงขนาด“ฝ่ายเรา”อย่าง “อ.เสรี”ต้องออกมากระตุกเตือนคนกันเองให้รามืออย่าขี้แพ้ชวนตี โดยโพสต์FB ทำนอง “เขาชนะแล้ว”อย่าทำให้แพ้ฟาล์วเพราะเลือกใหม่เขาก็ชนะอีกอย่าไปกดดันกกต.ให้คอยตรวจสอบการทำงานในหน้าที่ผู้ว่ากทม.เขาหลังจากนี้ดีกว่าเพราะเป็นผลประโยชน์ของคนกรุงเทพฯ
@เรียกว่า “กระแสชัชชาติ” ที่มาจากการเลือกตั้งของคนกรุงเทพฯ กลายเป็นความฟีเวอร์คาดหวัง ของคนเมืองและคนต่างจังหวัด ทุกอาชีพ ตั้งแต่เด็กน้อยยันผู้เฒ่าผู้แก่ ทั้งที่ดูผ่านการไลฟ์สด และที่เข้ามาเจอตัวเป็นๆ เซลฟี่และร้องเรียนปัญหา จนเริ่มมีการพูดถึงการเป็น“โมเดลตัวอย่างผู้นำ”
และ “นักการเมือง”ที่จะเข้ามาบริหารประเทศควรเข้าถึงและพร้อมรับฟังและแก้ปัญหาให้ประชาชนได้แบบรวดเร็วแบบนี้ ซึ่งกระแสแบบนี้นักวิชาการมองว่าอาจเป็นการ “ยกระดับ”เชิงคุณภาพการเมือง ที่ “การเมืองใหญ่”ต้องกลับไปทำการบ้านหา “คนคุณภาพ”ทำงานได้จริงมาให้ประชาชนเลือก
@ในขณะ “มุมกลับ”มีการมองว่า การเปรียบเทียบ “ภาวะผู้นำเมือง”กับ “ผู้นำประเทศ”หนนี้ กดดันโดยตรงกับ “ศูนย์อำนาจ”โดยเฉพาะระหว่าง “2ป.” “พี่ใหญ่” “น้องเล็ก”ที่มีประเด็นคาใจกันอยู่ที่ “การไปต่อ”หนนี้
ต้องเปลี่ยนแผนการเสนอชื่อ “แคนดิเดตนายกฯ”ที่ไม่ใช่มีเพียง “นายกฯลุงตู่”ชื่อเดียว อย่างที่เห็น“ผู้กองนัส”ที่จับกระแสการเมืองได้แม่น เปิดเกมทันทีกับการเตรียมให้ “3กับระเบิด”ให้เป็นประโยชน์ในแรงกดดันการปรับเกมรับความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองข้างหน้า.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
