การผ่อนคลายมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค.ที่อนุญาตให้สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะสามารถเปิดให้บริการได้ถึงเวลาเที่ยงคืน เริ่มวันที่ 1 มิถุนายน เป็นต้นมา
ผ่านมาเพียงสัปดาห์กลับเกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกัน บริเวณลานจอดรถหน้า ผับคลับ 99 จ.นครศรีธรรมราช มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ในจำนวนนี้เป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปี รวมถึงกรณีที่ กรมการปกครองได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นแวมไพร์ผับ ในพื้นที่เขตปทุมวัน กทม. พบนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติกว่า 500 คน
ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการอย่างน้อย 5 คน และตรวจพบปัสสาวะเป็นสีม่วงหลายราย ที่สำคัญคือผับดังกล่าวเคยถูกสั่งปิดตามคำสั่ง คสช. ไปเมื่อประมาณปี 2561
แต่กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจนกระทั่งถูกจับกุมตามที่เป็นข่าว และยังพบอีกว่าไม่มีใบอนุญาตสถานบริการ อย่างไรก็ตามผับแห่งนี้มีริ้วติดกับสถานศึกษา ซึ่งตามกฎหมายแล้วจะต้องปิดถาวร ไม่สามารถเปิดให้บริการได้อีก
นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานภาคีเครือข่ายป้องกันและลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา ตลอดจนเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง และเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ จำนวน 20 คน เดินทางเข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกถึง
นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับสถานบริการที่ปล่อยให้เด็ก เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ เป็นละเมิดคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 เนื่องจากเครือข่ายฯ
มีความกังวลต่อสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมแสดงจุดยืนข้อเสนอต่อกระทรวงยุติธรรม ขอให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้ง 2 เหตุการณ์ดังกล่าว
หากพบว่ามีการปล่อยปละละเลยหรือละเมิดกฎหมายขอให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะคำสั่งปิด 5 ปี หรือปิดถาวร และขอให้มีการเฝ้าระวังและดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับสถานบริการ ร้านเหล้า ผับ บาร์ หรือสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ให้เข้าใจ กฎหมายและไม่กระทำการใด ๆ ที่อาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายไม่ฉวยโอกาส หรือละเมิดกฎหมาย สร้างผลกระทบทางสังคม
พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระวัง แจ้งเหตุ สถานบริการร้านเหล้าผับบาร์ ที่ทำผิดกฎหมาย ตลอดจนขอเป็นกำลังใจ และยินดีสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตามกำลังเพื่อปกป้องเด็ก เยาวชน และสังคม
“สถานที่แบบนี้ผมคิดว่าต้องเด็ดขาดนะครับเรื่องยาเสพติดด้วย/เครือข่ายของพวกเราสามารถเรามีส่วนเฝ้าระวังมีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศนะครับมีแกนนำอยู่/
ดังนั้นหากพบเห็นอะไรที่ถ้ารู้สึกอึดอัดและรู้สึกว่าลูกหลานของเรากำลังจะตกหล่มบางอย่าง/ในร้านเหล้าผับบาร์พวกนี้/เข้ามาที่เพจแอลกอฮอล์วอชก็ได้นะครับ/เป็นเพจfacebookเข้ามาแจ้งเรื่องเข้ามาให้ข้อมูลกับพวกเราได้นะครับ”
ทางด้านผู้แทนจากกระทรวงยุติธรรม ที่มารับมอบหนังสือกล่าวว่าในการเปิดสถานบันเทิงหรือผับบาร์โดยเฉพาะที่อยู่ใกล้กับสถานศึกษาตามข้อกำหนดตามคำสั่ง ของ ศบค.นั้น จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันกำหนดโซนพื้นที่เพื่อให้ส่งผลกระทบกับสถานศึกษาให้น้อยที่สุด โดยแต่ละพื้นที่ก็จะมีความแตกต่างกันไป
“ก็พยายามใช้องค์ประกอบผู้เกี่ยวข้องนะครับ/โดยเฉพาะในเชิงพื้นที่จังหวัดเรื่องสาธารณสุข สรรพสามิตและสถานศึกษามา/เพราะฉะนั้นในความเป็นจริงหลายๆ เรื่องก็อาจขัดอกขัดใจอย่างที่ท่านได้กรุณาถามนะครับ/หลายจังหวัดผมเคยจำได้ว่าแค่ข้ามถนน/อีกฝั่งหนึ่งเนี่ยก็บอกฝั่งนี้ห้ามขายเนอะ/
พอข้ามถนนไปบอกขายได้แล้วอย่างนี้เป็นต้น/เพราะงั้นคำถามท่านเป็นคำถามที่อาจจะต้องลองดูเป็นเคสๆ เป็นกรณีไป/แต่ก็เป็นคำถามที่ดีมากแล้วก็เป็นปัญหาที่จริงๆ แล้วถ้ามีมาตรฐานเนี่ย/ผมจำได้เลยมีกำหนดตัวเลขเบื้องต้นไว้แต่ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้ใช้ในเกณฑ์ปัจจุบันครับ”
ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.กล่าวว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายได้เน้นย้ำเตือนถึงสถานีตำรวจทั่วประเทศด้วยว่าขอให้ตรวจตราสถานบริการ สถานบันเทิงในพื้นที่รับผิดชอบของตัวเองอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะห้ามไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าใช้บริการมั่วสุ่มยาเสพติดหรือเปิดเกินเวลา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews