@จังหวะประเดประดังทางการเมือง ในช็อตที่ “ฝ่ายค้าน” มีคิวยื่นญัตติ “อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล” ผ่าน “ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน” ทั้ง “นายกฯลุงตู่” และ “9รมต.” มะรืนนี้ (15มิ.ย.) ในขณะที่ห้วง2วันที่ผ่านมาทั้งเสาร์-อาทิตย์
นอกจากบรรยากาศ “ดนตรีในสวน” ที่ขยายไปหลายวงการและหลายเจนเรชั่นฯ ยังมีภาพของ “ม็อบทะลุแก๊ส” โผล่ออกมาชุมนุม “ไล่ลุง” แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแถมมีสัญญาณแรงกับอาการตูมตามละแวกใกล้โซนบ้านพัก “นายกฯลุงตา” ในค่ายทหาร
ประเดิมให้ “ผู้ว่ากทม.คนใหม่” “ชัชชาติ สิทธิพันธ์” ที่อยู่ระหว่างไปงานรับปริญญาลูกชายที่สหรัฐฯ ต้องแสดงภาพการตัดสินใจ ไมนับรวมประเด็น 2 รัฐมนตรีช่วยจากพรรคร่วมรัฐบาล ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ที่จู่ๆ ก็มามีเรื่องคดีความที่จะส่งผลกระทบกับการปรับครม.
@ที่ในทางการเมือง ด้านหนึ่ง “เหมือนกระทบ” ด้านหนึ่ง “เหมือนไม่กระทบ” กับ “ศูนย์อำนาจ3ป.” ที่ถูกจับตาการกลับมา “ไหลรวม” แบบ “รวมกันเราอยู่” ของ3ป.และ “พรรคร่วมรัฐบาล” นักการเมือง เพื่อประคอง “นายกฯลุงตู่” ไปสิ้นสุดทางเลื่อน ครบวาระเดือนมี.ค.66
แม้จะยังมีปัญหาการตีความ “คุณสมบัตินายกฯ” ดำรงตำแหน่งครบ2สมัย 8 ปี.ของ “นายกฯลุงตู่” กลางเดือนส.ค.65 ที่ถือเป็น “กับระเบิดที่3” หากผ่าน “กับระเบิดที่2” “ศึกซักฟอก” ราวเดือนก.ค.ไปได้ แบบที่สำแดงผ่านผลลัพธ์ “ศึกงบประมาณ66”
ที่มีภาพ “งูเห่า” จากพรรคฝ่ายค้าน มาเสริมช่วยนับสิบประสานภาพการไม่ขยับยกมือสวน ของ “กองกำลังอิสระ” ของ “ผู้กองนัส”
@อย่างที่นอกจากจะมีภาพการไปเปิดงานร่วมกันครั้งแรกในรอบหลายเดือนของ “3ป.” วันก่อน แม้ในสัปดาห์นี้จะมีหมายไปกันคนละภาคของ 2 ป. อย่างที่ วันนี้ (13มิ.ย.) “นายกฯลุงตู่” ที่โหมด “จ๊ะจ๋า” ควบคุมอารมณ์ให้แจ่มใสได้ เริ่มกลับมา
ยังพยายามส่งสัญญาณความแน่นปึ้กของ “พี่น้อง3ป.” ที่เป็นคำตอบของการไปต่อ กับการตอบคำถามนักข่าว ยังมีกำลังใจใช้หรือไม่ หลังจากที่น้อง3 ป.ออกงานร่วมกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า “ร่วมกันมาตลอดนะจ๊ะ ทั้งวันนี้และวันหน้าเหมือนเดิมทุกอย่าง เหมือนเดิม”
@เรียกว่าดูอาการ “นายกฯลุงตู่” กลับมามั่นใจมากขึ้นว่า “ศึกซักฟอก” น่าจะเป็นแค่ปรากฏการณ์ “ด่าทะลุจอ” ไม่ถึงขนาด “คอขาดบาดตาย” จากภาพของ เสียงส.ส.ที่มากกว่าฝ่ายค้าน จากผล “ศึกงบประมาณ66” แม้วันก่อนจะชิมลางจนถูกมอง2ป.ยังต่อกันไม่ติด กับข่าวที่มาจาก“แรมโบ้”
ว่าจะเข้ามาเป็นสมาชิกและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยิ่งมามีกรณี “2รมช.พรรคร่วมรัฐบาล” อย่าง “กนกวรรณ-นิพนธ์” โดยเฉพาะ “กนกวรรณ” จากภท.ที่อาจส่งผลให้มีการปรับครม.มัดรวมกับของเดิม2ที่นั่งเดิมของ “ผู้กองนัส-อ.แหม่ม” เป็น3หรือ 4 ที่ยังไม่นับรวม “9รมต.ที่ถูก “หมายหัว”
ในศึกซักฟอก ในจังหวะนี้ ทำให้ถูกจับตาว่า อาจมีการขยับ “ปรับครม.” ช่วงปลายทางรัฐบาลเพื่อเพิ่มเรตติ้งรัฐบาลในช่วงปลายทาง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ “โควิด” กำลังซา เตรียมประกาศเป็นโรคประจำถิ่นหรือการถอดหน้ากาก
ที่เริ่มมีการพูดถึงประเด็นการยกเลิก พรก.ฉุกเฉินโควิด ที่ถูกขยายไปถึงเดือนก.ค.65 ท่ามกลางแรงกดดันจากภาคเอกชนกับการกระตุ้นเศรษฐกิจที่วิกฤติซ้ำซ้อนจากสงครามยูเครนที่ส่งผลกระทบพลังงานซ้ำเติมความลำบากถึงปากท้องประชาชน ที่กระแสนี้ เริ่มกดดันไปที่รัฐบาล “นายกฯลุงตู่”
@อย่างที่ “ไพศาล” “อดีตกุนซือรองนายกฯ” แนะผ่านFBเมื่อวาน (12มิ.ย.) ว่ารัฐบาล ต้องควร
รีบยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพราะเงื่อนไขในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้หมดไปนานแล้ว การดำรงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงส่อว่าจะขัดกับพระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน และขัดกับรัฐธรรมนูญด้วย แต่ที่เสียหายหนักกว่าก็คือ
ความไม่ปกติของประเทศ และการทำมาหากินของประชาชนซึ่งได้รับความเดือดร้อนทุกข์เข็ญอย่างกว้างขวาง และขณะนี้ทั่วโลกไม่มีใครประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน และได้คืนความเป็นปกติให้แต่ละประเทศทั่วทั้งโลกแล้ว จึงไม่ควรฝืนความเป็นจริง
เพราะมีแต่จะทำให้คนทั้งประเทศเห็นว่าการคงไว้ซึ่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก็เพียงเพื่อการรักษาอำนาจทางการเมือง ซึ่งจะเกิดกระแสต่อต้านอย่างกว้างขวาง และอย่างรวดเร็ว จึงควรเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ก่อนที่ความรุนแรง และความเสียหายจะบานปลายไปมากกว่านี้.
ติดตามเนื้อหาดีๆ แบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews