ของแพง ค่าครองชีพสูง คือ โจทย์ใหญ่ของรัฐบาลที่ยังแก้ไม่ตก เพราะราคาน้ำมันดีเซลซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการขนส่งยังคงปรับตัวสูงขึ้น เฉียดลิตรละ 35 บาทแล้ว
แน่นอนว่า ผลกระทบนี้ ย่อมสะท้อนมาถึงตัวเลขด้านเศรษฐกิจ ชัดเจนสุดคือ “เงินเฟ้อ” และ “ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค” ที่ล่าสุดดัชนีความเชื่อมั่นฯ เดือน เม.ย.ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และต่ำสุดในรอบ 9 เดือน
ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ระบุว่า เงินเฟ้อไทยเร่งตัวขึ้นเช่นเดียวกับต่างประเทศ โดยเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา CPI เพิ่มขึ้นถึง 7.1%yoy สูงสุดในรอบ 13 ปี ซึ่งเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นนั้น แสดงให้เห็นถึงสภาวะเศรษฐกิจที่ยังติดๆขัดๆ
และอาจส่งผลให้หนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูง ล่าสุดเดือน เม.ย. 2565 อยู่ที่ 10.04 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 60.8% ต่อ GDP ซึ่งมีโอกาสใกล้เคียงกับเพดานที่ 70% ต่อ GDP
ดังนั้น เมื่อเงินเฟ้อสูงขึ้น การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.จึงถูกพูดถึง นั่นเพราะมติที่ออกมา ไม่เป็นเอกฉันท์ โดย 4 ต่อ 3 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ 0.50 ต่อปี
สำหรับมติที่ออกมานั้น เป็นการส่งสัญญาณถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ว่ากันว่าจะเป็นขาขึ้น ซึ่งมีการประเมิณ ว่า ปีนี้เราจะได้เห็นกนง.ขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้ง เพื่อกดเงินเฟ้อ
โดยนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มองว่า การปรับดอกเบี้ยครั้งเดียว อาจจะกดเงินเฟ้อได้ไม่เร็วพอ เนื่องจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นไม่ได้มาจากกำลังซื้อแต่มาจากต้นทุน
และแน่นอนย่อมส่งผลทางจิตวิทยาให้เศรษฐกิจชะลอลงระดับนึง ซึ่งหากมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ และปรับขึ้นครั้งที่ 2 ในช่วงต้นไตรมาสที่ 4 จะดึงเศรษฐกิจให้ย่อตัวลงประมาณร้อยละ 0.3 ดึงอัตราเงินเฟ้อลงได้ร้อยละ 0.4-0.5
ขณะที่ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย “นายสนั่น อังอุบลกุล” บอกกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่ าหากจะมีการขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 จริงจะกระทบ ต่อ GDP ของประเทศร้อยละ 0.1-0.2 ดังนั้นจึงไม่ควรรีบขึ้นดอกเบี้ยในขณะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว
แต่อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของ กนง. กับคำถามที่ว่า เศรษฐกิจพร้อมแล้วหรือยังกับการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเรื่องนี้ “นายสมชัย จิตสุชน” คณะกรรมการนโยบายการเงิน ยืนยันกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า มีความพร้อม เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจไทยดีขึ้น
หลังมีการเปิดประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง
(ปล่อยเสียง นายสมชัย-01) “คือแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น คืออย่างน้อยปีนี้ไปจนถึงประมาณสักกลางปีหน้า หรือต้นปีหน้า ถ้าไม่มีอะไรเข้ามาแรง ๆ ก็คงจะดีขึ้น เพราะว่าเราเปิดประเทศมากขึ้น นักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น
และจะเป็นเรื่องของคนที่การบริโภคที่อั้นมานานในช่วงโควิด ในที่สุดก็คงจะปูดขึ้นมาในช่วงนี้ เพราะฉะนั้นมองไปข้างหน้า ในช่วงปี สองปี น่าจะดีขึ้น ตรงนี้เป็นอัน ที่ทำให้กนง.มีความพร้อมมากขึ้นที่จะขึ้นดอกเบี้ย”
จากนี้ต่อไปจะต้องติดตามการวางหมากของแบงก์ชาติ และ กนง. ในการดูแลเศรษฐกิจไทยในห้วงจังหวะที่ เงินเฟ้อไทย และ เงินเฟ้อโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างใกล้ชิด เพราะล่าสุด เงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือน พ.ค. อยู่ที่ 8.6% สูงสุดในรอบ 40 ปีและสูงกว่าตลาดคาดที่ 8.3% นั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆ แบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
