หลังจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นและสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก
เนื่องจากถือว่าตลาดคริปโตฯ เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง และที่ผ่านมาเหรียญยอดฮิตอย่าง บิทคอยน์แม้จะเคยทะยานไประดับสูงสุดไปทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ที่ 68,000 ดอลลาร์ แต่ก็ไม่ได้การันตีความมั่นคง ที่ผ่านมาในสัปดาห์ที่แล้วก็ร่วงลงรุนแรงหลุดระดับ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ก่อนจะเริ่มฟื้นตัวมาในระดับนึง ส่วนมูลค่าของ อีเทอเรียม ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่รองลงมาจาก บิทคอยน์ นั้น ตกลงไปถึง 73% และยังไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าจะเป็นจุดต่ำสุดแล้วหรือไม่ แม้ราคานี้ช้อนได้หรือไม่ คำถามนี้ยังคงไม่มีใครสามารถตอบได้ เพราะที่ผ่านมาราคา ลงทะลุทุกแนวรับ ขณะที่หลายรายกำลังติดดอยบิทคอยน์ควรบริหารความเสี่ยงและพอร์ทการลงทุนให้ดีในระยะนี้ แต่หากมองความเสี่ยงที่มีหลายปีที่ผ่านมาก็มีเศรษฐีใหม่จากการลงทุนในบิทคอนย์ แต่ก็มีผู้ที่ผิดหวังหมดไปเยอะเช่นกัน
ซึ่งหากจะเปรียบกับทรัพย์สินที่ลงทุนกันมายาวนาน อย่างทองคำแม้จะปรับขึ้นลงตามภาวะเศรษฐกิจและทิศทางต่างๆ แต่ความเสี่ยงและความผันผวนยังมีในระดับที่ตั้งรับได้และทิศทาง จนใช้เป็นจุดชี้วัดเศรษฐกิจว่าฟื้นไม่ฟื้นจากนักลงทุนที่จะวิ่งเข้าวิ่งออกในทองคำเนื่องจากสถานกาณ์เศรษฐกิจไม่แน่นอน นักลงทุนจะวิ่งเข้าถือทองคำเพราะเป็นทรัพย์สินที่มั่นคง
โดยคุณจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า แม้ราคาทอง ที่คาดว่าจะมีความผันผวน และอาจขยับราคาขึ้นอีกรอบ หลังความชัดเจนของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ที่มีออกมา ในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้นในระยะนี้ แต่ก็ยังเป็นระดับที่อยู่ในการคาดการณ์ของนักลงทุนและตลาด ที่ระยะยาวยังจะดีดตัวขึ้นจากเศรษฐกิจสหรัฐที่จะฟื้นตัวช้า แต่หากเทียบตัวทองคำ ยังคงเป็นทรัพย์สินที่มั่นคงจับต้องได้ ส่วนการลงทุนในรูปแบบอื่นๆก็มีความเสี่ยงเช่นกันอยู่ที่ผู้ลงทุนจะรับมือได้หรือไม่
แม้ความเห็นผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองยังรับว่ามีความเสี่ยง ดังนั้นหากจะตัดสินใจลงทุน เราควรต้องศึกษาให้รอบด้าน เพราะเชื่อว่าความเสี่ยงมีในทุกตลาด อยู่ที่จะเลือกลงทุนในแบบใด ซึ่งคงตัดสินไม่ได้ว่าเสี่ยงไม่เสี่ยง อันไหนคุ้ม แต่จะประสบความสำเร็จและได้กำไรมากกว่ากันทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานความรู้นั้นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews