@จังหวะพอดีใน “สัญญาณ” เปิดรูระบาย ให้คนไทยมีความหวังเพิ่มขึ้น ในการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติมีโอกาสลืมตาอ้าปากจากภาวะ “วิกติเศรษฐกิจ2เด้ง”
ทั้งจาก “โควิด” และ” สงครามยูเครน” ที่สร้างความเดือดร้อนทั้งต่อสุขภาพ และ ปากท้อง โดย “นายกฯลุงตู่” ที่แม้วันนี้ อารมณ์จะ บ่จอย เพิ่งพูดการเมืองในรอบ7วัน ตอบโต้
กับนักข่าวที่ไล่ถามจี้ที่กระทรวงกลาโหมถึงการปรับครม.หลังศึกซักฟอกว่าเป็นเรื่องของตนไม่จำเป็นต้องตอบ ที่เมื่อวานนายกฯได้ออก ข้อกำหนดการผ่อนคลายมาตรการโควิด ตามคําแนะนําของศบค.
ให้สามารถ ปลดแมสก์ถอดหน้ากาก ตามสมัครใจได้มีผลทันทีตั้งแต่เมื่อวาน (23มิ.ย.) รวมถึง การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค ที่ปลดระวางให้ “ผู้ร้ายโควิด” ที่กุมสภาพประเทศไทยมา3ปี
เป็น “โรคประจำถิ่น” แม้ จะยังไม่มีการประกาศยกเลิก พรก.ฉุกเฉินที่ยังมีผลไปถึง31ก.ค.แถมออกอาการอยากจะขยายต่อ
@ที่น่าสนใจคือ “จังหวะคู่ขนาน” ล้อไปกับสัญญาณข้างต้น ยังมีสัญญาณไปถึงการเปิดพื้นที่รูระบายในการแสดงความคิดความเห็นของผู้ชุมนุมในวันนี้
โดย วันนี้ 24มิ.ย.65 ซึ่ง เป็น วันครบรอบ90ปี คณะราษฎร์ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 ที่เป็น “วันเชิงสัญลักษณ์” ในการเคลื่อนไหวของกลุ่มเคลื่อนไหวฝ่ายประชาธิปไตยที่เคลื่อนตัวสนับสนุนกับ “ม็อบเด็กราษฎร”
มีการ ประเดิม จัดกิจกรรมเดินจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปที่ “ลานคนเมือง” ของ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ “ผู้ว่ากทม.คนใหม่” ที่มาจากการเลือกตั้งในรอบ8ปี
“ชัชชาติ สิทธิพันธ์” ที่กำลังเป็นที่ฟีเว่อร์ของคนกรุงฯและคนต่างจังหวัดกับสไตล์การนำการทำงาน ทำงาน ทำงาน จน ถูกจับตาจากฝ่ายการเมืองทั้งรัฐบาล-ฝ่ายค้าน แม้กระทั่งถูกจับตาจาก นักข่าวต่างประเทศ
@อันเป็น จังหวะปะเหมาะที่ “ชัชชาติ” มีเซ็นต์ประกาศ ให้ 7 สถานที่ใน กทม.ชุมนุมสาธารณะได้ ภายใต้ พ.ร.บ.การชุมนุม คือ ที่ ลานคนเมือง,สนามกีฬา ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง,ที่สาธารณะใต้สะพานรัชวิภา (ใกล้ซอยวิภาวดีรังสิต 36) เขตจตุจักร,
ลานจอดรถหน้าเขตพระโขนง,ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ เขตมีนบุรี,ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ เขตทุ่งครุ และ สวนมณฑลภิรมย์ เขตตลิ่งชัน ที่น่าสนใจว่า
คำสั่งของ ผู้กว่ากทม. “ชัชชาติ” กำลังถูกจับตาจากผู้คนหลายฝ่ายที่มีความเห็นต่างทางการเมืองทั้งจาก “ฝ่ายอนุรักษ์” และ “ฝ่ายก้าวหน้า” แม้จะมีร่องรอยความระวังรัดกุมในข้อกฎหมาย ที่ล้อไปกับ พรบ.การชุมนุม
และระมัดระวังกับการที่ยังอยู่ในภาวะ พรก.ฉุกเฉินโควิด ที่ยังไม่นับรวมความกังวลจากหลายฝ่ายว่า “ชัชชาติ” อาจต้องเปลืองตัว หากมีการสร้างสถานการณ์ที่โยงไปถึงการทำผิดกฎหมาย ม.112 ทั้งจาก “ฝ่ายตรงข้ามผู้ชุมนุม” หรือจาก “ผู้ชุมนุม” เอง
@ในขณะที่ ในทางพฤตินัย อาจ ถูกฝ่ายหนึ่ง มองไปถึงนัยยะความสอดคล้องกับสถานการณ์การเมืองห้วงปลายรัฐบาล ที่กำลังเข้าโหมด “ศึกซักฟอกรัฐบาล” กลางเดือนก.ค.หลังการเปิดเมือง1ก.ค.ที่เริ่มมีสัญญาณ “ม็อบพลังงาน”
นัดชุมนุม3ก.ค.ที่เนื้อหาแม้มุ่งไปที่ความเดือดร้อนประชาชนจาก “วิกฤติพลังงาน” แต่ออกมาในท่วงทำนอง “ไล่นายกฯลุงตู่” อยู่ในทีไม่นับรวมที่ฝ่ายนี้ระแวงมาแต่ต้นในความเป็น “แคนดิเดตนายกฯ” ของ “ชัชชาติ”
ในขณะที่ อีกฝ่ายหนึ่งที่เป็นฝ่ายเดียวกับ “ม็อบเด็ก” มองแบบคาใจกับการกำหนด “7สถานที่ชุมนุม” ของ “ชัชชาติ” ที่ ไม่มีพื้นที่เชิงสัญลักษณ์การเคลื่อนไหว ที่ม็อบเคยชุมนุม อย่าง อนุสารีย์ปชต.,อนุสาวรีย์ชัยฯ สนามหลวง ถนนราชดำเนิน แยกราชประสงค์หรือแยกสามเหลี่ยมดินแดง อย่างที่ “สมยศ” แห่งกลุ่ม 24มิ.ย.ติง
@กระนั้น ในด้านบวก กับ ปรากฏการณ์ “ปลดแมสก์-เปิดม็อบ” ก็น่าสนใจกับทิศทางการ “เปิดรูระบาย” แบบเปิดพื้นที่ รับฟังความเห็นจากประชาชนจากรัฐบาล แบบ “ทูเวย์” ที่เริ่มเห็นเป็น “สัญญาณ” จากทุกฝ่าย อย่างที่เห็น
แม้กระทั่ง กองทัพเอง ก็ดูจะ อินเทรนด์ กับ แนวนี้เช่นกัน กับการผุด ไอเดีย “จิบน้ำชา” ของกระทรวงกลาโหม อย่างที่วันนี้ (24มิ.ย.) “โฆษกกลาโหม” พล.อ.คงชีพ ออกมาส่งสัญญาณ ชวน “คนเห็นต่าง” เข้ามาที่กระทรวงกลาโหม มานั่งพูดคุย
แบบกันเองจิบน้ำชา กาแฟ ถามทุกเรื่องที่ข้องใจแบบที่กองทัพพร้อมตอบทุกคำถาม เพื่อเป็นการทำความเข้าใจแลกเปลี่ยนข้อมูล จะเป็นทางออก เพราะต่างเป็นคนไทยด้วยกัน โดยใช้พื้นที่ห้องแถลงข่าวของกระทรวงกลาโหม.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
