“อะไร อะไรก็ขึ้น อะไร อะไรก็แพง” คือ เสียงสะท้อนของประชาชนในยุครัฐบาลนายกฯลุงตู่ ที่ในวันนี้กำลังเผชิญกับวิกฤตของแพง ค่าครองชีพสูง
อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นแน่นอนว่า ของแพงแบบนี้ ทำให้ประเด็นเรื่องการขอขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ทาง คสรท. หรือ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย เรียกร้องให้ภาครัฐ กระทรวงแรงงาน เร่งปรับเรทค่าแรงใหม่เท่ากันทั้งประเทศที่ 492 บาทต่อวัน ถูกพูดถึง
โดยนายชาลี ลอยสูง รองประธาน คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า วันนี้แรงงานทุกคนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำมันแพง ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
สวนทางกับค่าแรงที่ไม่ได้ปรับเพิ่ม ดังนั้นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้คนต้องประหยัด ไม่ใช้จ่าย ผลกระทบที่ตามมาก็คือ เศรษฐกิจในภาพใหญ่ ที่สะท้อนออกมาเป็นตัวเลขจีดีพีปีนี้ คาดว่าจะโตไม่ถึง 3%
ดังนั้น การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำจึงเป็นหนึ่งในหนทางที่จะ “นายชาลี” บอกว่า จำเป็น นั่นเพราะเมื่อแรงงานมีเงินเพิ่มขึ้น ก็ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจหลายๆรอบ ทั้งนี้ มองว่า รัฐบาลเป็นห่วงกลุ่มทุนว่าจะอยู่ไม่ไหว หากมีการขึ้นค่าแรง
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อขึ้นค่าแรง เงินก็จะถูกนำมาใช้จ่ายในการซื้อสินค้า สุดท้ายแล้ว เงินก็จะกลับไปหากลุ่มทุนเหมือนเดิม
“คนส่วนใหญ่ไม่มีสตางค์ไปซื้อของ จีดีพีจะไปเพิ่มขึ้นได้อย่างไร ฉะนั้นเป็นไปได้ จะต้องมีการจ่ายค่าแรงให้กับคนงาน แล้วให้คนงาน เอาเงินไปหมุน มันถึงได้มีการเจริญเติบโตขึ้นไป ตอนนี้ยังไปอั้นเรื่องค่าจ้างอยู่ กลัวว่าทุนจะอยู่ไม่ไหว
ความจริงแล้วทุน อย่างน้อยๆ ถ้าเราปรับขึ้นมานิดหน่อย คนงานก็ต้องไปซื้อของ เงินก็จะกลับไปอยู่ที่ทุนเหมือนเดิมนั่นแหละ ถ้าเราไม่ปรับให้เขา เขาก็ไม่รู้จะไปเอาเงินที่ไหนไปซื้อ หรือ จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ รัฐบาลจะต้องมาโอบอุ้มแบบทุกวันนี้ ก็ไม่ไหวนะ”
ส่วนกรณีที่กระทรวงแรงงาน วางโรดแมปว่าจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้วันที่ 1 มกราคม 2566 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ใช้แรงานนั้น นายชาลี มองว่า ช้าเกินไปเมื่อเทียบกับสถานการณ์ราคาสินค้าที่แพงขึ้นอยู่ในขณะนี้
ดังนั้นจึงเห็นควรที่จะปรับขึ้นค่าแรงให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานก่อน ตามอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นราว 7% เพื่อให้สามารถมีเงินเลี้ยงชีพได้ ส่วนวันที่ 1 มกราคม 2566 จะประกาศปรับขึ้นอีกครั้งก็ได้ ไม่มีปัญหา ซึ่งค่าแรงเหมาะสมที่ทาง คสรท. เคยสำรวจไว้อยู่ที่ 492 บาท /วัน
“ข้าวของราคาแพงที่มันเกิดขึ้น ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้ว แล้วบอกว่าค่าจ้างขั้นต่ำจะไปปรับม.ค.มันไม่ทัน มันต้องปรับค่าจ้างขั้นต่ำให้เท่ากับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จะไปให้ในส่วนของคนงานต้องมาแบกรับภาระในส่วนของค่าครองชีพที่สูงขึ้นไม่ได้
รัฐบาลต้องรีบปรับตอนนี้เลย ส่วนในเรื่องของ ม.ค. จะปรับอีกครั้งก็ได้ หรือปีนี้ปรับ 2 ครั้งก็ได้ ไม่มีปัญหาอะไร”
จากนี้ต่อไปจะต้องติดตามท่าทีของรัฐบาล และกระทรวงแรงงานอย่างใกล้ชิด เพราะในห้วงจังหวะที่ของแพงแบบนี้ ค่าแรงขั้นต่ำที่เรียกร้องให้ขึ้น จะได้ปรับก่อนวันที่ 1 มกราคม 2566 นี้หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆ แบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews