“ประเทศไทย” ถือเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจอยากจะเข้ามาท่องเที่ยวติดอันดับต้นๆ ของโลก
และไทยได้นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังวิกฤติโควิด-19 และค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการต่อเนื่อง ยกเลิกระบบ Test & Go อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่มีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR เป็นลบ สามารถท่องเที่ยวได้ทั่วประเทศ กระทั่งสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มีมติให้ “ยกเลิกระบบ Thailand Pass” และยกเลิกการบังคับนักท่องเที่ยวต่างชาติทำประกันสุขภาพ มีผลตั้งแต่ 1 ก.ค.2565 เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวต่างชาติแค่แสดงใบรับรองการฉีดวัคซีน หรือแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบด้วยวิธีตามที่กำหนด ในกรณีที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดไม่ครบโดส นับเป็นการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทยครั้งใหญ่เปิดประเทศอย่างสมบูรณ์
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายยุทธศักดิ์ สุภสร บอกกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า การยกเลิกระบบ Thailand Pass จะทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น โดยจากการติดตาม ล่าสุด พบว่า ตั้งแต่ยกเลิกระบบดังกล่าวมีต่างชาติเข้าไทยแล้ว 40,000 คน และเชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะการยกเลิกระบบ Thailand Pass ถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ททท.มั่นใจว่าปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ 7-10 ล้านคน อีกทั้งขณะนี้การท่องเที่ยวภายในประเทศเริ่มคึกคักเนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ยอดจองโรงแรม ที่พักขณะนี้ถือว่าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโซนภาคเหนือ มียอดจองที่พักเต็มยาว ซึ่ง ททท.ยังคงเป้าหมายรายได้ภาคการท่องเที่ยวปีนี้ไว้ 1.5 ล้านล้านบาท ยังไม่มีการปรับเพิ่ม
โดยหลังจากนี้ ททท.ต้องเดินหน้าส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เป็นไปตามเป้าหมายปี 2565 ซึ่งตั้งไว้ จากเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคนดังกล่าว เฉพาะ “นักท่องเที่ยวตลาดระยะไกล” ททท.ตั้งเป้าที่ 4 ล้านคน แบ่งเป็นจากภูมิภาคยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง 3.25 ล้านคน และภูมิภาคอเมริกา 7.5 แสนคน
นอกจากนี้ โจทย์ของ ททท.คือต้องแสวงหาตลาดใหม่ๆ ที่มีอัตราการเติบโตอย่างโดดเด่น ในช่วงที่ตลาดหลักนักท่องเที่ยวจีนยังไม่มา ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยจำเป็นต้องปรับตัว และเรียนรู้พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวตลาดใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคย อาทิ นักท่องเที่ยจาก “ตะวันออกกลาง” ซึ่งชื่นชอบการท่องเที่ยวช่วงฤดูฝนในไทย มาช่วยเพิ่มยอดโลว์ซีซั่น
สำหรับแนวทางในการส่งเสริมตลาดระยะไกลของ ททท. ประกอบด้วย
1.ทำงานร่วมกับพันธมิตร แบบ On Demand Partnership อาทิ สายการบิน เครือโรงแรม และบริษัทนำเที่ยวรายใหญ่
2.ส่งเสริมการขายร่วมกับพันธมิตร Special Deals with Partner ได้แก่ บริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) ในตลาดหลัก
3.ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และ
4.จัดงานและสนับสนุน “ไทย เฟสติวัล” (Thai Festivals) ในประเทศต่างๆ โดย ทางพันธมิตรได้ขอให้ ททท.ร่วมสนับสนุนและจัดงานไทยเฟสติวัลในต่างประเทศเพื่อเข้าถึงลูกค้าโดยตรง เป็นการปรากฏตัวพร้อมส่งเสียงดังๆ ว่าประเทศไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเต็มรูปแบบแล้ว
ดังนั้นการยกเลิกระบบ Thailand Pass นับเป็นปัจจัยสนับสนุนการท่องเที่ยวให้ฟื้นคืนมีชีวิตชีวา ซึ่งจากนี้ต่อไปต้องติดตามว่า ททท.จะทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยบูมได้มากเพียงใด เพราะการท่องเที่ยวถือเป็นพระเอกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews