“รธน.ลุง”เขี่ยไฟม็อบตีกระทะไทย
เป็นไปอย่างที่หลายฝ่ายคาด ว่า พลันที่เมื่อวาน(9ก.พ.)รัฐสภา มีมติ 366 ต่อ 315 เสียง มีมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างแก้ไข รธน.60 โดยเป็นการจับมือกันของ“พรรคพลังประชารัฐ”กับ 250 ส.ว.ทั้งที่ 3 พรรคร่วมรัฐบาล ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา ไม่เห็นด้วย จะเกิด“เอฟเฟ็กต์”อย่างใดอย่างหนึ่งออกมา โดยเฉพาะจาก“ม็อบเด็ก”ที่แม้แกนนำส่วนหนึ่งอย่าง“อานนท์””เพนกวิ้น””รุ้ง””ไมค์”จะโดนคดีเป็นหางว่าว แถมวันเดียวกัน ยังมีกรณี“ศาลอาญา”ไม่ให้ประกัน 4 แกนนำคณะราษฎร ตามที่อัยการสั่งฟ้อง 112,116 หลังจากที่ผ่านมาศาลเคยปล่อยตัวหรือให้ประกันตัวมาโดยตลอด ซึ่งมีการประเมินจากนักสังเกตการม็อบว่า มีแนวโน้มว่าแกนนำรายอื่นๆจะทยอยถูกควบคุมตัวและไม่ได้ประกันตัวเช่นกัน
ที่ปรากฏการณ์2กรณีข้างต้น ถูกเชื่อมโยงว่ามีนัยยะความสอดคล้องว่าเป็นเรื่องเดียวกัน ไม่นับรวมความเคลื่อนไหวของ“พรรคก้าวไกล”ที่ไปยื่นแก้ไข ม.112 ซึ่งทำให้ตั้งแต่เมื่อเย็นวานจนถึงวันนี้(10ก.พ.)มีปฏิกิริยาจาก“ม็อบเด็ก”โดยมีการเคลื่อนไหวนัดชุมนุมแสดงออกล้อไปกับภาพการเริ่มต้นอีกครั้งแบบ“ม็อบ3นิ้วตีกะละมังเคาะหม้อ”แบบ“ม็อบพม่า”ที่กำลังไล่“พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย”ที่ทำการยึดอำนาจที่เริ่มใช้มาตรการเข้มข้นกับม็อบ
โดย“ม็อบราษฎร”มีการชุมนุมที่ แยกปทุมวัน ประกาศเปิดหน้าสู้อีกครั้งหลังจากมีการระบาดของโควิด โดยบอกว่าไม่อาจรอเวลาเคลื่อนไหวบนท้องถนนอีกได้แล้ว เพราะการที่ไม่ยอมประกันตัวแกนนำเป็น“สัญญาณ”ที่บอกว่า“ฝ่ายอำนาจ”จะไม่ใช้วิธีประนีประนอม ดังนั้นจึงต้องแสดงพลัง เพื่อส่งสัญญาณว่าจะไม่ยอม รัฐบาล พร้อมยก 3 ข้อเรียกร้องเดิมทั้งให้“ลุง”ลาออกและแก้รัฐธรรมนูญ
ที่แรงกระเพื่อมดังกล่าว“ลุง”ในฐานะนายกฯและรมว.กลาโหมฯ ผู้ซึ่งยอมรับวันนี้ว่า“มิน อ่อง หล่าย”ผบ.สูงสุด ผู้นำยึดอำนาจเมียนมา ส่งจดหมายส่วนตัวถึงตน อธิบายเหตุผลในการยึดอำนาจและสถานการณ์ในเมียนมาแล้ว โดยขอให้ไทยสนับสนุนประชาธิปไตยในเมียนมา ที่ได้บอกไปว่าสนับสนุนอยู่แล้ว และไม่ยุ่งเรื่องการบริหารจัดการภายใน ขอแค่รักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไว้มากที่สุด ส่วนเรื่องของประเทศไทย“ลุง”เอง ก็รับรู้ และออกตัวยืนยันว่ารัฐบาลจริงใจในการแก้ รธน. ที่ผ่านมาก็สนับสนุนการแก้ไขรธน.เป็นนโยบาย หน้าที่ของรัฐบาล คือ การเสนอเข้าไปที่สภา จากนั้นเป็นขั้นตอนของรัฐสภาที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นที่บอกว่า รัฐบาลไปเกี่ยวข้อง ไม่จริงใจอะไรนั้นไม่ใช่ ทุกคนก็มีความคิดเห็นส่วนตัวเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.หรือ สว.ก็ตาม ต้องหาข้อยุติกันให้ได้ ถ้าไม่ได้ก็ต้องผ่านกระบวนการศาล ว่ากันไป ตนไม่มีสิทธิ์ที่จะไปสั่งการอะไรตรงนี้ ตนนำเสนอเข้าไปแล้วส่วนกรณี“ม็อบราษฎร”ที่นัดชุมนุมวันนี้“ลุง”ย้อนถามว่า“ยังไม่เข็ดหรือ”สมควรหรือไม่ควรก็อย่าไปสนับสนุน
เรียกว่าในจังหวะที่ใกล้“ศึกซักฟอก”วันที่ 16-19ก.พ.ที่ยังมีประเด็น“ไพบูลย์”ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีเนื้อหาในญัตติ“ฟอกลุง”กลับกลายเป็นว่า มี“ชนวน”จุดไฟที่กำลังมอดให้ลุกโชนขึ้นมาใหม่ จากปมการลงมติของรัฐสภาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความการแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งที่รัฐบาลลุง เป็นคนตั้งเรื่องเองตั้งแต่ต้น รวมถึงการตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเมื่อครั้งที่ถูกม็อบกดดัน ที่ว่ากันว่าแม้แต่ในวง สว.ที่งดออกเสียง ยังอดคิดไม่ได้ว่าเป็นการ“เตะถ่วง”หรือ“ท้าทาย”ในจังหวะ“ขาลง”ของ“ม็อบเด็ก”ที่ถูกประเมินว่า“ฝ่อตัว”หลังเคลื่อนไหวจน“ทะลุเพดาน”และแกนนำทยอยถูกดำเนินคดี ยิ่งในจังหวะที่“เพื่อนบ้าน”กำลังมีเรื่องและมีการใช้สัญลักษณ์ล้อกันคือ“สามนิ้ว”ตีกระทะ และ“แดงทั้งแผ่นดิน” ที่วันนี้ วนกลับ มาที่“ม็อบราษฎร”ที่ล้อกลับโดยใช้สัญลักษณ์ ตีกระทะเคาะหมอที่แยกปทุมวันเช่นกัน.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news