Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ยุบก้าวไกล-ไล่เศรษฐา

กลายเป็นฉาก “คู่ขนาน” ใน “ชะตากรรมการเมือง” ของ “พรรคก้าวไกล” ที่จ่อจะตามมาด้วย “44 ส.ส.ก้าวไกล” ที่ล่าสุดวันนี้ (12 มี.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเอกฉันท์เสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค

 

 

 

จากกรณีก่อนหน้านี้ (31 ม.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่าการกระทำของ “พิธา” และพรรคก้าวไกลที่เสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และใช้เป็นนโยบายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

ซึ่ง กกต.ได้มีการพิจารณาผลการศึกษาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา และความเห็นที่สำนักงานกกต.เสนอว่าการกระทำของพรรคก้าวไกลเข้าข่ายเป็นความผิดมาตรา92(1) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 จึงจะมีการเสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญต่อไป

 

ที่น่าสนใจว่านอกจาก “เอฟเฟ็กต์” ถัดจากนี้กับการกระเพื่อมของก้าวไกล ที่ทำได้แค่”รอดาบ”ว่าจะฟันลงมาเมื่อไหร่ กับกระบวนการไทม์มิ่งถัดไปที่ กกต.จะส่งเรื่องไปยัง “ศาลรัฐธรรมนูญ”เพื่อ “ยุบพรรค”และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคในขณะที่ช่องทางหนึ่ง ก็มีการไปร้องผ่าน ปปช.เพื่อส่งศาลฎีกาฯไว้แล้ว กรณี 44 ส.ส.ที่ล้วนแต่เป็น “ตัวตึง”ของก้าวไกลที่เข้าชื่อแก้ไข ม.112 ด้านหนึ่งยังถูกมองแบบ “ขนานคู่” ไปยัง “รัฐบาล” โดยเฉพาะตัว “นายกฯเศรษฐา” ที่ยังไม่ทันจะได้แถลงผลงาน 6 เดือน รวมถึงยังไม่ทันได้ผ่านงบ 67 ที่สภานัดพิจารณาปลายสัปดาห์หน้า (21-22มี.ค.) ก็มีคิวต้องถูก “ร่อนตะแกรง”ตรวจสอบปัญหาการบริหารของคณะรัฐมนตรี จาก “สภาสูง” สว.250 วันที่ 25 มี.ค.

 

ที่เริ่มเห็น “สว.ตัวตึง”หลายท่าน เริ่มออกมาบิ๊วอารมณ์ จั่วหัวเป็น ออเดิร์ฟพุ่งเป้าไปที่ “นายกฯเศรษฐา”กับการทำสถิติบินต่างประเทศ16ประเทศ แต่ยังไม่มี “ผลงานจับต้องได้” โดยเฉพาะ นโยบายเร่งด่วนทำทันที ที่แถลงกับสภา โดยล็อคเป้าไปที่ “นโยบายเรือธง” “ดิจิทัลวอเล็ต”ที่ทำท่าจะล่มปากอ่าวในที่สุด เพราะถูก “เตะตัดขา”ทุกทิศทาง รวมถึง ปมปัญหากระบวนการยุติธรรมกรณีการพักโทษของ “นช.ทักษิณ”

 

ไม่นับรวมคิว การซักฟอกจากฝ่ายค้านที่จะยื่นญัตติ “ซักฟอกรัฐบาล”แบบไม่ลงมติตาม ม.152 ต่อ “ประธานวันนอร์” พรุ่งนี้ (13 มี.ค.) โดย ถูกครหา“เกี๊ยะเซี๊ยะ”กับรัฐบาลเพื่อไทย ด้วยเหตุแห่งอาการยึกยักรั้งรอการตรวจสอบรัฐบาล และ การฉายแววไม่ซัดเต็มข้อกับกรณี “คนชั้น14”รวมถึงการยอมรับจาก “ผู้นำจิตวิญญาณ” “ธนาธร” ว่าเคยพบ “ทักษิณ”ที่ฮ่องกง ในช่วงมีข่าว “สารพัดดีลการเมือง”จนกลายเป็นบทการตรวจสอบพลิกกลับมาโดดเด่นที่ “สว.”ที่ชิงยื่นซักฟอกซะก่อน ที่“หมดอายุ” ต้นเดือนพฤษภาคม ในขณะก็เป็นแรงกดดันในทีให้ “สภาล่าง”มีการตรวจสอบรัฐบาล

 

ที่ภาพซ้อนทับ ระหว่างชะตากรรมของ ก้าวไกลกับเศรษฐา ถูกมองเป็นความเชื่อมต่อไปถึง “ดีลการเมือง”ที่จะสะท้อนผ่าน “ทักษิณ”ที่กำลังถูกจับตาบทบาท ความเคลื่อนไหว ในการไปไหว้บรรพบุรุษ ที่ จ.เชียงใหม่ 14-16มี.ค.ในช่วงเดียวกับกำหนดการ “ครม.สัญจร” พะเยาที่ “เศรษฐา” ออกปากก่อนหน้านี้ว่าอาจมีโอกาส “ป๊ะ”กับ “ทักษิณ”ช่วงไปเชียงใหม่เพื่อดูปัญหา “ฝุ่น” ท่ามกลางข่าว “ทักษิณ”ถูกจับตาและ “วัดใจ”การปฏิบัติภารกิจเป็น “ศูนย์หน้า”ในฐานะ “อนุรักษ์นิยมใหม่” ให้กับ “ขั้วอำนาจการเมืองเก่า” ในการรบกับ “พรรคเด็กก้าวไกล” ที่ต้องพิสูจน์ทราบ ทั้ง “การบริหารประเทศ”แก้ เศรษฐกิจปากท้อง ผ่านบทบาท “นายกฯ”ของ “เศรษฐา” ที่ กลุ่ม สว.ของ “กลุ่มอำนาจเก่า” อุตสาห์ช่วยยกมือโหวตเลือกมาที่กลับต้องมาพลิกไล่ไม่ทัน 6 เดือน

 

รวมถึง ท่าทีการ “รักษาระยะห่าง” กับ “อดีตกิ๊กการเมือง” อย่างก้าวไกลของคนในรัฐบาลเพื่อไทย ที่ว่ากันว่าการจะอยู่จะไปของ “นายกฯเศรษฐา” ท่ามกลางกระแสจับตา ประเด็น “นายกฯคนละครึ่ง” ในจังหวะถัดจากนี้ นอกจากโยงไปสู่ “ดีลการเมือง” ยังถูกมองเกี่ยวไปถึงการจะกลับมาของ “ยิ่งลักษณ์” ตามลักษณะ “โมเดล” ของพี่ชายอย่าง “ทักษิณ” ที่กระบวนการถูกวางโดย “อ.วิษณุ” ที่อยู่ในช่วง “รัฐบาลลุงตู่” ก่อนมาสู่ “รัฐบาลเศรษฐา”

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube