จับโบรกเกอร์คนสุดท้าย คดี “หมอบุญ” จ่อล่าภาค 2
จากกรณีที่กองบัญชาการตํารวจนครบาลและกองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง รับคำร้องทุกข์จากผู้เสียหายจำนวนมากให้ดำเนินคดีกับ นายแพทย์บุญ วนาสิน กับพวก ในความผิดตามฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
ซึ่งคดีนี้มูลค่าความเสียหายประมาณสูงกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท ต่อมาตํารวจได้ทําการโอนสํานวนการสอบสวนคดีอาญาจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล มาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 มีผู้เสียหายจำนวน 605 ราย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมอายัดทรัพย์และส่งให้ ปปง. และได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษดังกล่าวไปยังพนักงานอัยการ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 มีความเห็นควรสั่งฟ้องนายแพทย์บุญกับพวก รวม 16 ราย โดยจับกุมผู้ต้องหาไฝแล้ว 13 ราย หลบหนีออกนอกประเทศ 3 ราย ได้แก่ หมอบุญ น.ส.กชพร และ น.ส.ฐิติพร สองสาวโบรคเกอร์คนสนิท จึงได้แจ้งไปยังองค์การตำรวจสากลเพื่อออกหมายแดงในการติดตามตัว กระทั่งเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2568 กรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ฐิติพร ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิขณะเดินทางกลับมายังประเทศไทย
ล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีฯ และ ตัวแทนจากสํานักงานตํารวจแห่งชาติได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม น.ส.กชพร โบรคเกอร์คนสุดท้าย โดยถูกผลักดันมาจากประเทศพันธมิตร ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าประเทศต้นทางคือประเทศอะไร ทําให้ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหารวมแล้ว 15 ราย เหลือรายสุดท้ายคือ “หมอบุญ” ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหลักในคดีนี้
ในส่วนของ “หมอบุญ” ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายสุดท้ายที่อยู่ระหว่างหลบหนีอยู่ต่างประเทศ ร.ต.อ.วิษณุ ระบุว่า เบื้องต้นมีเบาะแสแล้วแต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วน 2 โบรคเกอร์คนสนิทที่ถูกจับกุมมีพฤติการณ์เหมือนกันคือเชิญชวนให้ประชาชนร่วมลงทุนโดยการนำเงินมาให้ “หมอบุญ“ กับพวกกู้ยืม ทั้งนี้ ดีเอสไอ จะมีปฏิบัติการภาค 2 ที่เก็บตกจากผู้เสียหายล็อตแรกเนื่องจากทราบว่ายังมีผู้ร่วมกระทําผิดอีกจํานวนมาก โดยยืนยันจะนําผู้กระทําความผิดทั้งหมดมาลงโทษตามกฎหมาย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
