Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ปรับ ครม.อิ๊งค์ ยังไม่กล้าทิ้ง “ภูมิใจไทย” แน่นอน

 

กระแสข่าวมาแรง นายกฯแพทองธาร ชินวัตร จะปรับครม.ช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้ แต่ก็ยังไม่มีใครยืนยันชัดเจนว่ามีสัญญาณแล้ว “ภูมิธรรม เวชยชัย” บอกแค่นายกฯไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้
ขณะ “ทักษิณ ชินวัตร” สทร.ผู้มากบารมี พูดที่เชียงใหม่ว่า “เดี๋ยวค่อยคุยกัน” ซึ่งสามารถตีความได้ทั้ง จะปรับ หรือไม่ปรับก็ได้ แต่จากประเด็นปัญหา “ร่างพรบ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

ที่ “ไชยชนก ชิดชอบ” เลขาฯพรรคภูมิใจไทย ลูกชายคนโต ของ”เนวิน ชิดชอบ” ประกาศกลางสภา “ไม่เอากาสิโน”ทำให้ 2 พรรค กินแหนงแคลงใจกัน แม้แกนนำพยายามบอกไม่มีอะไร ไม่มีปัญหา พรรคร่วมยังเหนียวแน่น แต่คนวงนอกก็ดูออก ว่ามีอะไรในกอไผ่แน่นอน นโยบายเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีกาสิโน 10% นี้ เป็นโมเดลที่ “รัฐบาลเพื่อไทย” ชูขึ้นเป็นเรือธง หวังเป็นแหล่งรายได้ใหม่ แต่ 2 พรรคร่วม ประชาชาติ และ ภูมิใจไทย มีท่าทีคัดค้าน จนหลายฝ่ายจับตาเรื่องเสถียรภาพ ของรัฐบาลที่ข้ามขั้วกันมา ประกอบกับเพิ่งผ่านศึกซักฟอก จึงน่าจะมีการปรับ ครม.เพื่อเดินหน้าปั้นผลงานแบบเต็มตัว ซึ่งอาจรวมถึงการยึดกระทรวง หรืออาจปรับใหญ่ ถึงขั้นเขี่ยทิ้ง “ภูมิใจไทย” สังเวยการผิดคิวของ”ไชยชนก”ก็มีความเป็นไปได้ หากนายกฯอิ๊งค์ และ สทร.มั่นใจว่าเอาอยู่

โดยสมการการเมือง ตัวเลข สส.ในสภา ปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่ได้ 494 คน แบ่งเป็น รัฐบาล 11 พรรค เพื่อไทย 142 คน ภูมิใจไทย 69 คน รวมไทยสร้างชาติ 36 คน ประชาธิปัตย์ 25 คน กล้าธรรม 24 คน ชาติไทยพัฒนา 10 คน ประชาชาติ 9 คน ชาติพัฒนา 3 คน ไทรวมพลัง 2 คน เสรีรวมไทย และประชาธิปไตยใหม่ พรรคละ 1 รวม 322 คนพร้อมมีออปชั่นพิเศษ งูเห่าอีกขั้นต่ำ 7 เสียง จากเมื่อครั้งยกมือหนุน “แพทองธาร”ผ่านศึกซักฟอก ทั้งจาก พลังประชารัฐ 1 คน ไทยสร้างไทย 5 คน พรรคไทยก้าวหน้า 1 คน รวมๆรัฐบาลมีถึง 329 เสียง ส่วนฝ่ายค้าน 5 พรรค ประชาชน 143 คน พลังประชารัฐ 20 คน เป็นธรรม 1 คน และ พรรคไทยสร้างไทยที่อยู่ฝ่ายค้าน 1 คน รวม165 คน ดังนั้นหากจะขับ “ภูมิใจไทย” ออกจริงๆ รัฐบาลยังคงมี 260 เสียง

 

ส่วนฝ่ายค้านจะมีเพิ่มเป็น 234 คน ยังมีส่วนต่างกัน 26 เสียง ถือว่าไม่มีปัญหาในทางทฤษฏี แต่กลับกัน อาจมีปัญหาในทางปฏิบัติ เพราะเกมในสภาที่ผ่านมา ฝ่ายค้านมี 160 กว่าเสียง
ก็ทำให้รัฐบาลสะดุดหัวทุ่มมาแล้วหลายครั้ง

 

ดังนั้นการจะปล่อยให้ฝ่ายค้านที่นำโดยพรรคประชาชน แข็งแกร่งขึ้นอาจไม่ใช่เรื่องดี เพราะเวลา 2 ปีกว่าๆ ที่เหลือ อาจทำให้รัฐบาลเดินหน้าลำบากกว่าเดิม หากขับภูมิใจไทย
ออกไปเป็นฝ่ายค้านด้วย ลำพังแดงสู้กับส้มก็เหนื่อยแล้ว หากต้องสู้ศึกอีกด้าน กับน้ำเงิน ที่มีสภาสูงรวมอยู่ด้วย ก็ต้องทำงานหนักมากขึ้นเป็น 2-3 เท่าตัว จึงไม่จำเป็นต้องแตกหักในเวลานี้
ประกอบกับคำพูดของ”ทักษิณ” ที่เชียงใหม่ ที่ระบุว่า “การเมืองก็คือการเมือง พรรคภูมิใจไทย ก็คือ พรรคภูมิใจไทย” ค่อนข้างมีนัยยะ ว่านั่นคือการส่งสัญญาณ “รัฐบาลเพื่อไทย ที่ข้ามขั้วมา
จำเป็นต้องกล้ำกลืน ประคับประคอง อยู่ร่วมกันไปแบบนี้จนครบเทอม และใช้การเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ กันเป็นเรื่องๆ ไปทีละสเต็ป ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกินรวบตลอดเวลา เพื่อทำผลงาน
สะสมกำลังพล กวาดคะแนนนิยม จนมั่นใจว่า เลือกตั้งรอบหน้า จะชนะแน่ๆ ได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียว จึงค่อยสละเรือแตกหักกับน้ำเงิน

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube