ปรับครม.เสี้ยม-เขี่ยภูมิใจไทยvsเปลี่ยน “นายกอิ๊งค์”

ถึงคิว“นายกอิ๊งค์-แพทองธาร”ต้องรีบออกมาเคลียร์คัตตัดจบ ว่ายังไม่คิดปรับครม.และไม่มีข่าว “เขี่ยภูมิใจไทย” หลังตลอดทั้งวันและก่อนหน้านี้ ข่าวการปรับครม.“แก้เผ็ด”พรรคภูมิใจไทย ดังกระหึ่มมาตั้งแต่ “ไชยชนก ชิดชอบ”เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศ คัดค้านกฎหมายกาสิโน ในนาม “ลูกครูใหญ่เนวิน” สำทับซ้ำจาก “นิด้าโพล”(20เม.ย.)ที่นอกจากจะสรุปว่า “รัฐบาล”ต้องรีบ “ปรับครม.”ยัง “ชี้เป้า” ไปยังบรรดา “รัฐมนตรี”ที่มีคะแนน “ท็อปเท็น” ทำให้วันนี้(22เม.ย.)นอกจากการออกมาชี้แจงของผู้คน ที่มีส่วน “ได้เสีย”ในรัฐบาลตั้งแต่ รัฐมนตรี ,ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ยังปรากฏร่องรอยการ “ปล่อยข่าว”แนว “เสี้ยม”ให้เกิดความขัดแย้งกับ “พรรคภูมิใจไทย” กับการไปแตะเก้าอี้ “มท.1”ของ “หัวหน้าหนู-อนุทิน”ที่เจ้าตัวบอกต้องเหนื่อยหน่อยเพราะเก้าอี้นี้“แข็งแรง”

 

ที่ข่าวนี้“ขนานคู่”ไปกับร่องรอยการสร้างแรงกระเพื่อมกดดันไปที่ตัวผู้นำอย่าง“นายกฯอิ๊งค์-แพทองธาร” ที่แม้จะไม่ “ติดโผ”การปรับครม. แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายต่างๆ ที่ต้องการให้ “ผู้กุมดีล” คุยกับ “ศูนย์อำนาจ”เปลี่ยนตัว “นายกฯ”เพื่อให้ประเทศสามารถรับมือ “วิกฤติเศรษฐกิจ” ที่จะถาโถมใส่ประเทศไทย ในภาวะ “เศรษฐกิจโลก”ถดถอยจากความเสี่ยงมากมายที่เกิดจาก
“ภาษีทรัมป์” อย่างที่เมื่อวาน(21เม.ย.)จู่ๆ “พ่อท่านรองประธาน”อย่าง “สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล” ออกมาโพสปริศนา ข้อความว่า #มืออาชีพ สถานการณ์ของประเทศยามนี้ ถ้า “ผู้นำประเทศ”
เป็นเพียงแต่ “สัญลักษณ์” ยากเหลือเกินที่จะนำพาประเทศ ก้าวข้ามความยากลำบากไปได้ เราต้องการ “มืออาชีพ” ที่ปกครองได้ บริหารเป็น “ความมืดมนอนธการ” ช่างน่ากลัวยิ่งนัก”
เป็น “สมศักดิ์”ที่เคยยุส่งให้ภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล โดยเขายังเป็นพ่อของ “รองประธานแบด” “ภราดร ปริศนานันทกุล”ที่เพิ่ง “ทิ้งทุ่น”ก่อนปิดสมัยประชุมบอก สมาชิกในห้องประชุมสภาว่า “เราอาจไม่ได้กลับมาเจอกันอีกในสมัยประชุมหน้า”

 

ในขณะที่ “หัวหน้าหนู-อนุทิน”ออกอาการเซ็ง “ข่าวเสี้ยม” ‘ปรับครม.-เอาภูมิใจไทย’ พ้นรัฐบาล บ่นตกเป็นเป้าถูกแกล้ง ลามไปยังข่าวว่า ‘ยิ่งลักษณ์’น้องสาว“ทักษิณ” สั่งเขี่ยทิ้ง โดยบอกไม่แฟร์
ที่จะพูดถึงคนที่ตอบโต้ไม่ได้ แต่ยืนยันเป็นอำนาจ ‘นายกอิ๊งค์’ ไม่ต้องถามใคร หาก ‘นายกฯ’ ที่ตนได้คุยแล้ว ไม่ให้ความมั่นใจ คงไม่ยืนตรงนี้ก่อนปัดข่าว “สูตรใหม่”ดุงพรรคพลังประชารัฐเข้าร่วมเอาภูมิใจไทย ออกว่ารัฐบาลทำอะไรต้องมีหลักการผลประโยชนต่อผ่นดิน และปัดข่าว พรรคภท.จะไปรวมกับ “พรรคเด็ก-ประชาชน จับมือกันเป็นฝ่ายค้าน นายอนุทิน ว่า ครม.ยังไม่ได้ปรับเลย
พรรคภท.จะไปเป็นฝ่ายค้านได้อย่างไร ธรรมดาการเมืองสมัยก่อน มีหัวหน้าพรรคเยอะ เขาก็ชิงตำแหน่งนายกฯกัน มีอะไรก็ไปเขย่าตำแหน่ง ตอนนี้ตำแหน่งนายกฯมีความมั่นคง และแข็งแรง ไม่มีคนคิดจะแข่งหรือคิดไม่ดีกับท่าน จะเอาท่านลงมาจากตำแหน่งในพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีใครคิดเลย ทีนี้ก็เลยมาแกล้งตน

 

เช่นเดียวกับบรรดา “รัฐมนตรี”ที่ตกเป็นข่าวว่าจะถูกสลับเก้าอี้ไปเป็น “มท.1”หลายคน ที่ออกมาปฏิเสธข่าว ไม่ว่าจะเป็น “สมศักดิ์ เทพสุทิน”รมว.สาธารณสุข ที่ยอมรับว่า เป็นข่าวที่มีการพูดคุยกัน แต่เรื่องนี้เป็นอำนาจของทางนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ประกาศแล้วว่ายังไม่มีการปรับ ครม. ยังไม่ถึงเวลา ต้องฟังนายกฯ ที่เป็นผู้กำหนดนโยบาย และความเหมาะสม ซึ่งตนเองไม่ทราบรายละเอียดลงลึก คิดว่าคงร่ำลือกันไปเอง ดูจากสถานการณ์อื่นๆ คงสุดท้ายแล้วแต่จะวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์การเมือง ขณะที่ “อ.แหม่ม-นฤมล”รมว.เกษตรจาก “พรรคกล้าธรรม”ของ “ผู้กองนัส”ออกมาปัดข่าวว่า กธ.ต้องการเก้าอี้ “มท.1” โดยบอกคุยกับ “ผู้กองนัส”แล้ว ว่า กธ.ไม่ได้เรียกร้องที่จะเปลี่ยนสลับเก้าอี้รัฐมนตรี เช่นเดียวกับ “พี่อ้วน-ภูมิธรรม”รมว.กลาโหมจากเพื่อไทย ที่เมื่อวานออกมาปัดข่าวจะถูกโยกข้ามห้วยจากกลาโหม ไปนั่งมท.1 แต่ก็ไม่การันตีว่าเก้าอี้ตัวเองจะมั่นคง โดยบอกขึ้นอยู่กับนายกฯ ก่อนยืนยันว่าสัมพันธ์เพื่อไทยกับภูมิใจไทยยังเหมือนเดิม

 

ขณะที่ “เทพไท”ในฐานะ “วงนอก”มอง การปรับครม.ไม่มีอะไรในกอไผ่ พรรคร่วมรัฐบาลจะไม่มีผลกระทบ เป็นเรื่องของเพื่อไทย “นายใหญ่”ไม่กล้าไปล้วงลูกพรรคอื่น กลัวจะถูกต่อต้าน “ทักษิณ”ไม่อยากเปิดศึกหลายด้าน ลำพัง “ดีลลับ”ที่ให้ไว้กับ “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม” ยังทำไม่สำเร็จ โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และการเอาชนะพรรคก้าวไกลหรือพรรคประชาชน ถ้า ยุบสภา ตอนนี้ไปเลือกตั้งใหม่ ก็ยังแพ้พรรคเด็ก ผลงานการแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็ย่ำแย่ ไม่ประสบผลสำเร็จตามราคาคุยไว้ ต้องยอมรับว่า สภาพของ “ทักษิณ”ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับ “เสือติดจั่น” เป็นเสือก็จริงแต่เป็นเสือลำบาก มีข้อจำกัดทางการเมืองมากมาย ไม่ใช่นายทักษิณในยุคพรรคไทยรักไทย แต่เป็นนายทักษิณในยุคพรรคเพื่อไทย

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่