ใครเทเจรจาภาษีทรัมป์ Vs อนิจจัง”นายกอิ๊งค์”

คู่ขนานกับเรื่องการเมือง คือเรื่อง “การบ้าน” “โจทย์ใหญ่”ของ รัฐบาลที่นำโดย “นายกฯอิ๊งค์-แพทองธาร” ภายใต้การให้คำปรึกษาจาก “ทักษิณ”ที่ทำท่ากำลังส่งผลกระทบต่อ “การเมือง”จากนี้คือ “สัญญานวิกฤติ ซ้อนเศรษฐกิจ”กับ “ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก”รวมถึงไทย ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส3และ 4 ยิ่งวันนี้(23เม.ย.) ที่ตามคำบอกของ “นายกฯอิ๊งค์”ก่อนหน้านี้ อ้างว่า เป็นวันสำหรัฐ “ให้คิว”ประเทศไทยในการส่ง “ทีมไทยแลนด์” ที่นำโดย “2พระยาพิชัย”อย่าง “พิชัย ชุณ”และ “พิชัย นริศพันธ์” รมว.คลังและรมว.พาณิชย์รวมถึง “ศุภวุฒิ สายเชื้อ” มีคิวต้องไปเจรจากับรัฐบาลสหรัฐกับปม “ภาษีทรัมป์”หากแต่เมื่อวาน(22เม.ย.) “นายกอิ๊งค์” เพิ่งมาบอกว่ามีอันต้องเลื่อนไป โดยเหตุผลยังคลุมเครือกับเรื่อง 90 วันของ “ทรัมป์” ไม่รู้ตกลงมีการนัดหมายกันจริงหรือเปล่า แล้วตกลงใครเทใคร

 

กระนั้นกลับมีความน่าสนใจในมิติการเมือง ที่ถูกส่งผ่าน “ภาษากาย”ของ “นายกอิ๊งค์”เมื่อวานกับเรื่องนี้ นอกจากอาการเกร็งๆที่ต้องตอบเรื่องยากปัญหาเศรษฐกิจ ข้อเจรจากำแพวภาษีสหรัฐ ที่โยนให้ “พิชัย ชุณ”รมว.คลัง ตอบแทนแล้ว ยังมี “ช็อต”ที่นายกอิ๊งค์ตอบเรื่อง “การปรับครม.”ที่มีข่าวจะดึงพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ของ “ลุงป้อม”เข้ามาแจมรัฐบาลหลังเขี่ยภูมิใจไทยทั้งที่เคยบอกจะไม่จับมือกับ”ลุง”โดย “นายกฯอิ๊งค์”ตอบนักข่าว ว่า “ผ่านมาตั้ง 2 ปีแล้ว ทำไมดีเลย์จัง ตอนนั้นเคยบอกให้ดูหน้าดิฉันไว้ จะไม่จับมือกับคนทำรัฐประหาร แต่คะแนนมันไม่ถึง เลยต้องมาจับมือกัน ส่วนจะปรับครม.หรือไม่นั้น ให้ทำใจนิ่งๆไว้ ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง ตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ก็เช่นกัน”

 

ที่ช็อตเหมือนบอกให้ปลงอนิจจังตำแหน่ง ครม.รวมถึงตำแหน่งนายกฯของตัวเองดังกล่าวถูกวิเคราะห์กับอาการบ่น “เหนื่อยจังคุณอา”กับ “พีรพันธ์”รมว.พลังงาน ในท่ามกลางปัญหาการบ้านและการเมืองที่รัฐบาลเพื่อไทย ถูกสกัดการทำงานจากพรรคร่วมรัฐบาลและเครือข่ายราชการ มาตลอดแม้กระทั่ง “นโยบายเรือธง”ที่โดนซ้ำจากครั้ง “ดิจิทัลวอลเล็ต”ยุค “เศรษฐา”มาจนถึง “เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กต์”ล่าสุด ขณะเดียวกันในภาวะ “ไคลซิส” ของประเทศ จากวิกฤติซ้อนเศรษฐกิจที่ของเก่ายังไม่ทันแก้ต้องมาเจอ “ท่ายาก”จาก “ภาษีทรัมป์” ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้กับ “ผู้นำคนใหม่สหรัฐ”ที่ “ผู้นำ”ทั่วโลกยังกุมขมับ

 

โดยภาวะดังกล่าวถูกมอว่า “รัฐบาลไทย”ที่นอกจากจะยังมี “ปัญหาเสถียรภาพ”ยังมีปัญหาเรื่อง “ความรู้ความสามารถ” ที่สะท้อนผ่านภาพ “ผู้นำ”และ”ทีม”กระทั่งนำมาสู่กระแสเรียกร้องให้มีการ “ปรับครม.”และนิดด้าโพลก็สะท้อน ผลสำรวจประชาชนต้องการให้มีการปรับครม.โดยเร็ว โดยส่วนใหญ่โฟกัสไปที่ “รัฐมนตรีเศรษฐกิจ” เช่นเดียว กับกระแสเพ็งเล็งไปที่ตัว “นายกอิ๊งค์”ที่เริ่มถูกกดดันจากทุกทิศทางในการรับมือกับสถานการณ์ รับแรงกระแทกทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น ที่เสียงเหล่านี้สะท้อนผ่านจากผู้คนในแวดวงเศรษฐกิจธุรกิจ ที่สะท้อนผ่านไปยัง “สื่อใหญ่”หลายท่าน ที่มีการพูดถึงสถานการณ์ประเทศที่วิกฤติแบบนี้ไม่เหมาะกับ ”มือใหม่หัดขับ”หรือบางรายเสนอถึงขนาดการเปลี่ยนนายกฯ

 

เช่นเดียวกับ “อ.สุรชาติ บำรุงสุข”นักวิชาการด้านความมั่นคงจากคณะรัฐศาสตร์จุฬา ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทยฯของ “หมาแก่-ดนัย”วันนี้(23เม.ย.) แสดงความเป็นห่วงประเทศไทย กำลังหลงประเด็น “ภาษีทรัมป์”โดยบอกว่า ยอมรับการได้ฟังนายกฯและรองนายกฯพิชัยแถลงเรื่องการเลื่อนการเจรจา ภาษีทรัมป์ ก็ยิ่งวังเวงยิ่งเป็นห่วง กับ “90วันที่อันตรายมาก”โดยฝาก 12ประเด็น ที่มีปมที่ไม่ใช่แค่เรื่องผลประโยชน์ ทางการค้าอย่างเดียวหากแต่มีเรื่องปัญหาปมอุยกูร์ และ กรณีการจับกุม “อ.พอล”จากม.นเรศวร เป็นประเด็นสำคัญที่อาจกลายเป็นอุปสรรคกับทีมเจรจา ให้รัฐบาลพิจารณา พร้อมฝากเตือน นายกฯว่า อาจไม่เเรียนเรื่องนี้ ตอนเรียนที่รัฐศาสตร์จุฬาฯ แต่วันนี้นายกฯต้องเรียนเรื่องการเมืองระหว่างประเทศกับ “อ.พันศักดิ์”และเรียนเรื่องเศรษฐกิจระหว่างประเทศกับ “อ.ศุภวุฒิ” นายกต้องเข้าคอร์สใหม่และอย่าไปเชื่อเพื่อนใกล้ชิด วันนี้เพื่อนกลุ่มใกล้ชิดช่วยไม่ได้ ช่วยได้อย่างมากก็ไปกินไปเที่ยวไปเดิน แต่การเมืองระหว่างประเทศยุคนี้ใหญ่เกินกว่าที่”นาตาชา”และเพื่อน ๆ จะช่วยได้

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่