3 ปมร้อนลาม“อิ๊งค์”เลื่อนคุยภาษีทรัมป์
ประเด็นข้อกังขา ทำไมจู่ๆรัฐบาลไทย(22เม.ย.) ประกาศเลื่อนในการส่ง “ทีมไทยแลนด์” ที่นำโดย “พันศักดิ์”หัวหน้าทีมที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก และ 2 พิชัย และ “ศุภวุฒิ สายเชื้อ”เดินทางไปสหรัฐ เพื่อเจรจารอบแรกกับ “ทีมทรัมป์”กับปม การขึ้นภาษีไทย 36% หรือ “ภาษีทรัมป์”ที่เดิม “นายกอิ๊งค์ แพทองธาร” แถลงไว้ว่าเป็นวันที่ 23เม.ย. กำลังบานปลายกลายเป็นความ “ไม่เชื่อมั่น”ในการสื่อสารข้อมูลกับประชาชนคนไทย ว่า ตกลง เป็นเพราะเหตุผลกลใดกันแน่ และตกลงได้มีการนัดหรือรับนัดของสหรัฐจริงหรือไม่ เพราะไม่เคยมีการออกมายืนยันจากฝั่งสหรัฐนอกจากการออกมาบอกของ “อิ๊งค์”หลังจากที่ “ทักษิณ”ไปให้สัมภาษณ์ไว้ ที่เรื่องนี้ แม้เมื่อวานสหรัฐจะมี “สัญญานบวก”ออกมาจาก รมว.คลัง มือขวาของ “ทรัมป์” และตัว “ทรัมป์”เอง กับท่าที “ลดสอบ”ความรุนแรงกับการทำสงครามการค้ากับจีน หลังจากที่เลื่อนการพิจารณา “กำแพงภาษี” กับทุกประเทศออกมาไปอีก 90 วัน แต่ก็ยังไม่ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ไทยจะยกเลิกไม่ไป “หยั่งเชิง” ดูหน้าไพ่สหรัฐในการเจรจารอบแรก อย่างที่หลายประเทศยังคงเดินหน้าเจรจา
ที่อาการนี้ ทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงและกังวล การปกปิดไม่บอกเหตุผลแท้จริง ยิ่งที่ผ่านมาไทยมีปัญหา สร้างความไม่พอใจให้สหรัฐจากปม “การส่งกลับชาวอุยกูร์”จนมีการประณามจากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ และถูกมาตรการ “คว่ำบาตร” “ยกเลิกวีซ่า”เจ้าหน้าที่ทุกระดับที่เกี่ยวข้องกับการส่งกลับชาวอุยกูร์ไปซินเจียง ไม่นับรวมสัญญานไม่พอใจเตือนแรงปมการจับกุมดำเนินคดี “พอล แชมเบอร์ส” นักวิชาการชาวอเมริกันในไทย ด้วยข้อหามาตรา 112 ที่ถูกระบุอาจเป็นอีกปมการไม่ยอมเปิดโต๊ะเจรจากับไทยจนกว่าจะเคลียร์เรื่องเหล่านี้
อย่างที่ “ไหม ศิริกัญญา”จากพรรคประชาชน โพสFB เรียกร้องให้รัฐบาล สื่อสารตรงไปตรงมา ติดปัญหาอะไรต้องเลื่อนนัดเจรจาภาษีสหรัฐฯโดยจับโป๊ะ “นายกอิ๊งค์”กับ”พิชัย”รมว.คลัง ตอบไม่ตรงกัน ยิ่งทำให้เชื่อว่ายังนัดไม่ได้ และมองปมการส่งตัว “ชาวอุยกูร์”และ “การจับกุมนักวิชาการอเมริกัน” ทำให้ไทยถูกสหรัฐเลื่อนการเจรจา โดย “ไหม”ยัง ฉายภาพ 6 ประเทศเอเชียที่ เข้าเจรจารอบแรกกับสหรัฐไปแล้ว ในหัวเรื่องว่า “Update : Asia’s response 90 deals in 90 days” อย่าง เวียดนาม, ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, เกาหลีใต้, อินเดีย ต่อกรณีที่สหรัฐอเมริกา ยืดระยะเวลาในการปรับขึ้นภาษีนำเข้าออกไปอีก 90 วัน ที่ส่วนใหญ่มียุทธศาสตร์กระบวนท่าการต่อรองในรอบแรกที่ยังไม่ถือว่าจบแต่ก็ถือว่าได้รู้ “หน้าไพ่”ของสหรัฐ
ในขณะที่ไทย กลับประกาศเลื่อนการเจรจากับสหรัฐออกไปแบบไม่มีกำหนด จากเดิมประกาศไว้วันที่ 23 เม.ย. ซึ่งเราเข้าใจกลยุทธ์ Wait and See รอดูท่าทีของรัฐบาล แต่ทำแบบนี้ชวนให้คิดว่าตกลงเราอยู่ในลิสต์ ประเทศที่สหรัฐจะเจรจาด้วยรึเปล่า อยากให้รัฐบาลสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน อยากมั่นใจว่า มีกำหนดการที่ชัดเจนที่ถึงจะช้า แต่ชัวร์ และถ้าติดปัญหาอะไรก็ให้สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่นายกฯพูดอย่าง รองนายกฯพูดอย่าง แบบที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
เช่นเดียวกับ “วีรยุทธ กาญจชูศักดิ์” รองหัวหน้าพรรค ปชน.ที่มองว่าแม้จะมีสัญญานบวกจากที่ รมว.คลัง มือขวาของ “ทรัมป์”และ “ทรัมป์”ออกมาส่งสัญญานบวกผ่านนักลงทุนและแบงค์ใหญ่ เจพีมอแกน เหมือนต้องการกลับมาประนีประนอมกับจีนแต่ไทยก็อย่าได้ดีใจ เพราะยักษ์ใหญ่จูบปากภายใต้ “ระเบียบโลกใหม่” ย่อมส่งผลกระทบกับทุกประเทศเล็กๆ ทำให้การเจรจารอบแรก ที่จะรู้ไพ่สหรัฐจึงสำคัญ ในขณะที่ไทย ยังละล้าละลัง ไม่ขยับตรงนี้ ซึ่งจะเกี่ยวกับการที่มีผู้บริหารไทยระดับสูง โดนสหรัฐแบนวีซ่าหรือไม่ จึงไม่มีใครกล้าไป
ที่กระแสวิจารณ์ทำนองนี้จากหลายฝ่าย ทำให้วันนี้(24เม.ย.) “นายกอิ๊งค์”ที่อยู่ระหว่างการเยือนกัมพูชา ต้องรีบสปีคกิ้งข้ามประเทศย้ำว่าจับตาความเคลื่อนไหวของสหรัฐอย่างใกล้ชิด ในทุกมุมทุกด้าน ทั้งอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการว่ามีความเคลื่อนไหวอย่างไรบ้างต้องการอะไรเพิ่มเติมบ้าง ผ่านมายังไม่ถึง 30 วันก็การเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรอบโลก ซึ่งจะเห็นได้ว่าเรื่องของภาษีค่อยๆมีการปรับ ต้องดูก่อนว่าแต่ละประเทศจะมีท่าทีอย่างไร เราเองก็เช่นกัน เพราะฉะนั้นเรื่องของความรอบคอบ การเตรียมข้อมูลให้พร้อมที่ประเทศไทยทำอยู่ตอนนี้ เราก็ยังอยู่ในทิศทางที่กำหนดไว้ เราไม่ปล่อยให้หลุดมือไปไหน เรายังโฟกัสว่าเราสามารถทำอะไรเพิ่มเติมได้บ้าง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews