ศึกในนอกลามรุม – “นายกอิ๊งค์” ไม่ไหว
ถูกจับตาว่าอาจกลายเป็น“สัญญานการเมือง”สถานีถัดไป ผ่าน “ภาษากาย”ของผู้เกี่ยวข้อง หาก “อาการป่วย” จนต้องเข้าแอดมิดโรงพยาบาลกลางดึกของ “นายกอิ๊งค์ แพทองธาร”จะเป็นเหตุผลเดียวกับ ภาพหลัง กลับจากเยือนกัมพูชาช่วงเย็นที่หลบเลี่ยงให้สัมภาษณ์กับ “นักข่าว”เพราะรู้ว่าจะเจอคำถามในเรื่องหนัก ๆ ไม่ว่าจะเป็นข่าวการเจรจากับ “ฮุนมาเน็ต”ผู้นำกัมพูชา ที่ถูกระแวงจาก “ม็อบต้าน”จะมีเรื่อง MOU44 ที่โยงกับเรื่องผลประโยชน์พลังงานหรือไม่ หรือปมวิกฤติเศรษฐกิจจาก “ภาษีทรัมป์”ที่ไทยเลื่อนการส่ง “ทีมไทยแลนด์” ไปเจรจาจากวันที่ 23เม.ย.ออกไปอย่างไม่มีกำหนดจนถูกมองว่าล่าช้าเพราะประเทศในเอเซียทุกประเทศที่ผ่านการเจรจากับสหรัฐในรอบแรกไปแล้ว
ไม่นับรวมเรื่องการเมืองที่แม้จะยืนยันไม่มีการปรับครม.แต่ก็ทิ้งปริศนาธรรมแบบปลงอานิจจังตำแหน่ง ครม.ไม่แน่นอนแม้แต่ “นายกฯ”หลังจากที่ก่อนหน้านั้นก็เคยบ่นเหนื่อยกับ “คุณอาพี-พีรพันธ์” ท่ามกลางกระแสกดดัน จากทั้งโพลและผู้คนชั้นนำทางความคิด ให้รีบปรับครม.หรือเปลี่ยนตัวนายกฯเพื่อรับมือกับวิกฤติซ้อ วิกฤติเศรษฐกิจที่ส่งสัญญานชัดเจนทั่วโลก อย่างที่ “ปิฎก สุขสวัสดิ์”สามีนายกฯอิ๊งค์โพสสตอรีไอจี ช่วงเช้าเป็นภาพนายกฯ นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจากอาการป่วยไข้สูง โดยพร้อมสายน้ำเกลือที่โรงพยาบาล และมีแคปชันระบุว่า “ใครเตือนไม่ฟัง ร่างกายเตือนแล้วไม่ไหว” ก่อนที่ “โฆษกรัฐบาล” “จิรายุ ห่วงทรัพย์” จะออกมา “คอนเฟิร์ม”ว่า “นายกฯป่วย”ไข้ขึ้นสูงหมอให้แอดมิตเข้าพักรักษาตัวเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด ทำให้ต้องเลื่อนทุกกำหนดการวันนี้ออกไปและในส่วนอื่นๆ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ดำเนินการแทน
เรียกว่าถือห้วงนี้ของ “รัฐบาลเพื่อไทย”ที่กำลังนัวทั้ง “ภายในพรรคร่วมรัฐบาล”กับ “ศึกตบจูบ” กับ “ภูมิใจไทย”ที่เล่นแรงแบบต้องมีเอาคืน และ แรงกระเพื่อมจาก“ภายในพรรคเพื่อไทย”กับ กระแสปรับครม. ที่กดดันผ่าน “ข่าวปล่อย”ไปยัง “รัฐมนตรีเป้าหมาย”ที่จะถูกปรับที่เปลี่ยนเป้าจาก “คนภูมิใจไทย”ที่ถูกวิเคราะห์ “นายใหญ่”ยังไม่กล้าแตะตอนนี้แต่หันเบนไปเร่งเกม “นิติสงคราม”เล่นงาน “สว.สีน้ำเงิน”ให้DSIขุดข้อหา “อั้งยีซ่องโจร”กลับมาเล่น ทำให้แรงกระเพื่อมปรับครม.เกิดเฉพาะภายในพรรคเพื่อไทยไล่ตั้งแต่ “ทีมเศรษฐกิจ”2 พิชัย ไปจนถึง “พี่อ้วน-ภูมิธรรม”และอีกหลายคน
นอกจากนี้ยังถูกมองเป็น “จังหวะนรก”มะรุมมะตุ้ม กับปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ“หน้างาน”ตรงหน้าที่ต่อให้ “พ่อนายกฯ”อย่าง “ทักษิณ”ผู้มากคอนเนคชั่น มาเป็น “นายกฯ”เอง ก็ยังไม่ชัวร์ว่าจะแก้ได้
เพราะนอกจากมิติการเมืองระหว่างประเทศ ที่ต้องบาลานซ์ให้ได้ระหว่างความสัมพันธ์กับจีนกับสหรัฐ ยังต้องเตรียมรับแรงกระแทกจากผลกระทบเศรษฐกิจ ที่สหรัฐฯกับจีน แม้ “ทรัมป์”จะผ่อนคลายคันเร่งลงเพราะ “พลเมืองสหรัฐ”เริ่มไม่ปลื้มกระแสความนิยมทรัมป์ลดฮวบ แต่ผลจากการประกาศกำแพงภาษีตั้งแต่2เม.ย. ก็มีผลแล้วกับภาคธุรกิจส่งออกของไทย ที่ไฮไลท์สำคัญกำลังมีการจับตาการประกาศตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจ ที่จะออกมาจากหน่วยงานเศรษฐกิจ อย่างกระทรวงคลังวันที่ 28เม.ย. และ กนง.แบงค์ชาติวันที่ 30เม.ย. รวมถึงสภาพัฒน์ในช่วงเดือนพ.ค.ที่จะเป็นอีกแรงเสียดทานต่อ “รัฐบาลเพื่อไทย”ที่นำโดย “นายกอิ๊งค์” ที่ถูกคาดหวังเรื่องแก้เศรษฐกิจ แต่ยังไม่มีผลจนจะครบ2ปีแล้ว
ที่ทั้งหมดยังขนานไปกับแรงกดดันทางการเมือง จากกลุ่มอีลีด และ เทคโนแครต ที่เริ่มขยับออกมาคล้ายช่วง ค้านนโยบายเรือธงของ“รัฐบาลเศรษฐา”ปม “ดิจิทัลวอเล็ต” อย่างที่เห็นวันนี้(25เม.ย.) บรรดา “ตัวตึง” ระดับ “บิ๊กเนม”อย่าง’สมชาย-ชาญชัย-เจษฎ์-นิติธร ‘ ไปยื่น ป.ป.ช. ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ถอดถอนครม. ‘เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง’ พ่วง ‘สส.- สว’ ชุดปัจจุบัน ผิดรธน. ม.144 ปรับงบฯ 68 ส่วนเงินกู้มาแจกเงินหมื่น
และเริ่มมีการส่งข่าวอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงอำนาจในช่วงเดือน พฤษภาคม อย่างที่ อดีตตำรวจดังอย่าง “เรวัติ” เตือนข้าราชการในพื้นที่เมืองคอนอย่าตกเป็นเครื่องมือเพราะอำนาจการเมืองใกล้จะเปลี่ยน เช่นเดียวกับ “ชัยวุฒิ นาคมานุสรณ์ “รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ปฎิเสธข่าว พปชร.จะเข้าร่วมรัฐบาล โดยเปรียบรัฐบาลเหมือนเรือใกล้ล่ม ใครคิดจะไปลงเรือด้วยก็บ้าแล้ว และมอง ‘ทักษิณ’ยังไม่กล้าทิ้งภูมิใจไทย และเตือน‘นายกอิ๊งค์”ระวัง เพราะมีแววจะถูกยื่นตรวจสอบคุณสมบัติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews